ศูนย์ข่าวศรีราชา - เกิดเหตุเพลิงไหม้ 2 รายที่ “ชลบุรี” รายแรกห้องเช่าแรงงานต่างด้าว อีกรายบ้านโบราณ
เมื่อเวลา 08.45 น. วันนี้ (15 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลตำบลบางทราย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี รับแจ้งเหตุไฟไหม้ห้องเช่าภายในซอย 63 หมู่ 5 ตำบลบางทราย จึงรีบไปที่เกิดเหตุ พบเป็นห้องเช่า 3 ชั้น ที่ชั้นแรกพบมีกลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากห้องเลขที่ 103 ประตูห้องปิดล็อกอยู่ หน่วยผจญเพลิงจึงต้องพังประตูเข้าไป และใช้น้ำฉีดดับไฟที่กำลังลุกไหม้ที่นอนอยู่ภายในห้องอยู่ 10 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ เจ้าหน้าที่ช่วยขนย้ายที่นอนที่ถูกไฟไหม้ออกมากองข้างนอกห้อง ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
ต่อมา ตำรวจสภ.เมือง ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่า ห้องที่เกิดเหตุมีชาวพม่ามาเช่าอยู่ ช่วงเกิดเหตุออกไปทำงาน มีชาวบ้านที่อยู่ในซอยผ่านมาเห็นว่า มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากในห้องจำนวนมากจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ในห้องมีที่นอนถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย ฝาผนังห้องเป็นรอยไหม้
ส่วนสาเหตุต้องทำการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งซึ่งนับว่ายังโชคดีที่มีชาวบ้านผ่านมาพบก่อน ไม่เช่นนั้นอาจลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนชาวพม่าที่เช่าห้องอีกครั้งหนึ่ง ว่าเสียบปลั๊กไฟทิ้งไว้หรือไม่
นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กำชับ อบต. และเทศบาลทั้งจังหวัด เร่งประชาสัมพันธ์ช่วงนี้เริ่มเข้าฤดูหนาวซึ่งอากาศมักแห้งและลมแรง ให้ระวังฟืนไฟ โดยเฉพาะจุดธูปไหว้พระ ต้องดับให้สนิททุกครั้งทั้งก่อนนอน หรือออกจากบ้าน
ต่อมา ร.ต.ท.ประกาศ ยะติ พงส.สภ.พานทอง รับแจ้งมีไฟไหม้บ้านไม้ เลขที่ 60/1 ติดคลองชลประทานพานทอง หมู่ 5 ต.บางนาง จึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงจาก อบต.บ้านเก่า 2 คัน และนิคมอุตสาหกรรม อมตะนคร 1 คัน รุดไปที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังลุกไหม้บ้านไม้แบบโบราณ ใต้ถุนสูง ด้านล่างเปิดเป็นอู่ซ่อมรถยนต์
เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำดับไฟใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แต่ไฟไหม้บ้านเสียหายทั้งหลัง และยังมีรถจักรยานยรต์ถูกไฟไหม้วอดอีก 3 คัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน นายสุริยันต์ นพคุณ อายุ 33 ปี ให้การว่า เจ้าของบ้านชื่อนายเสนาะ วิวัฒนจิรตระกูล อายุ 61 ปี และตนมาเช่าเปิดอู่ซ่อมรถยนต์ ขณะเกิดเหตุกำลังซ่อมรถอยู่ด้านล่างได้ยินเสียงคล้ายไฟช็อต และมีกลิ่นเหม็นไหม้จึงวิ่งขึ้นไปดูด้านบนบ้าน พบไฟกำลังลุกไหม้ที่แผงควบคุมไฟจึงรีบเปิดน้ำจะไปดับไฟ แต่น้ำก็ไม่ไหล
จึงโทรศัพท์แจ้งศูนย์วิทยุ 191 แต่ก็ไม่ทัน เนื่องจากเป็นบ้านไม้แบบโบราณ อายุกว่า 50 ปี และช่วงที่ไฟไหม้มีลมกระโชกแรงทำให้ไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุอีกครั้ง ค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 2 ล้านบาท