ชัยนาท - ผอ.ชป.12 เตือนประชาชนอาศัยริมตลิ่งท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอีก 30-50 เซนติเมตร หลังมีน้ำหลากจากพื้นที่ภาคเหนือไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
วันนี้ (15 ต.ค.) นายฎรงศ์กร สมตน ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 มีหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2558 แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดชัยนาท ขอความอนุเคราะห์ให้ช่วยประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้านที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร และประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หลังปริมาณน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากฝนที่ตกทางภาคเหนือ
นายฎรงศ์กร สมตน ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 กล่าวว่า เนื่องจากในช่วงวันที่ 9-11 ตุลาคม 2558 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ทำให้มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ในอัตราเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน ณ วันที่ 15 ตุลาคม 2558 เวลา 06.00 น. ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 16.75 เมตร (ระดับน้ำทะเลปานกลาง) ระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 10.14 เมตร (ระดับน้ำทะเลปานกลาง) ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 726 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และคาดการณ์ว่าอยู่ในเกณฑ์ 900 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ถึงบริเวณ ต.บางหลวงโดด อ.บางบาล และ ต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 12 จะควบคุมปริมาณการไหลของน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ 900 ลูกบาศก์เมตร/วินาที โดยการบริหารจัดการน้ำเข้าพื้นที่ชลประทานฝั่งตะวันตก และตะวันออกด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ตามศักยภาพที่สามารถรับน้ำเพิ่มได้โดยไม่ให้กระทบต่อพื้นที่การเกษตร และคาดว่าจะทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 30-50 เซนติเมตร หากมีฝนตกหนักเพิ่มเติมจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 900 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด