ประจวบคีรีขันธ์ - เกษตรกรโคนมในประจวบคีรีขันธ์ที่เดือดร้อนวัวในฟาร์มตายจำนวนมาก รวมตัวยื่นหนังสือขอหน่วยงานเร่งช่วยเหลือ หลังทั้งจังหวัดเสียหายเกือบ 10 ล้านบาทแล้ว
วันนี้ (12 ต.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายบัญชา โชติรัตนฤทธิ์ ประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเกษตรกรโคนมจาก อ.ปราณบุรี อ.สามร้อยยอด และ อ.กุยบุรีจำนวนมาก เดินทางมายืนหนังสือถึง ดร.ทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่ตายอย่างไม่ทราบสาเหตุจาก 13 ฟาร์มใหญ่ รวมกว่า 144 ตัว รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 10 ล้านบาทแล้ว
โดยมี นายสมชาย บำรุงทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้แทนรับมอบหนังสือดังกล่าว พร้อมทั้งประชุมรับฟังข้อมูลความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประจวบคีรีขันธ์ ร่วมประชุม
นายบัญชา โชติรัตนฤทธิ์ ประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาวัวนมตายแบบไม่ทราบสาเหตุอย่างหนัก วัวทยอยตายเรื่อยๆ ส่วนแนวทางแก้ไขคงต้องรอข้อมูลจากทางปศุสัตว์ก่อนว่าสาเหตุที่ชัดเจนของการตายเกิดจากอะไร
ในส่วนของสหกรณ์ทั้ง 3 สหกรณ์ กับอีก 1 ศูนย์เองยังไม่ได้มีมาตรการใดๆ ออกมา เพียงแต่ให้เกษตรกรหยุดการให้อาหารที่เป็นกากมัน หรือมันสกัดเอเทอนอลไว้ก่อน
โดยวันนี้ต้องการมาขอความช่วยเหลือเบื้องต้น เพื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ช่วยเยียวยาให้แก่เกษตรกรที่ประสบปัญหาเฉพาะหน้าก่อน เนื่องจากบางรายเสียหายค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่ 2 แสนบาท จนถึงรายใหญ่สุดที่ อ.สามร้อยยอด เสียหายไปแล้วกว่า 2 ล้านบาท เฉพาะชีวิตวัว ซึ่งยังไม่รวมถึงผลกระทบความเสียหายที่จะตามมาอีก ขณะนี้ยังรอผลแล็บที่วิเคราะห์สาเหตุที่ชัดเจนอยู่ แต่ทางอธิบดีกรมปศุสัตว์ได้กำชับให้ได้ผลการตรวจภายใน 7 วันนี้เพื่อการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนเรื่องของน้ำนมดิบนั้น ขอชี้แจงว่าขณะนี้ยังมีปริมาณน้ำนมดิบคุณภาพดีอยู่ในระบบอยู่ ซึ่งจะไม่กระทบกันต่อการผลิตนมกล่องพร้อมดื่มเพื่อส่งจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคอย่างแน่นอน ส่วนน้ำนมดิบที่ผลิตในช่วงที่พบว่า มีวัวนมตายนั้น ขอทางสหกรณ์โคนมได้ตรวจสอบคุณภาพน้ำนมดิบเสียก่อนว่ามีเชื้อโรคใดปนเปื้อนหรือไม่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ
ส่วนเรื่องสูตรอาหารหยาบที่เกษตรกรได้ปรับปรุงสูตรหันมาใช้กากมันให้วัวนมกินนั้นเกิดจากปัญหาที่โรงงานสับปะรดหยุดการผลิต จึงไม่สามารถควบคุมปริมาณเปลือกสับปะรดที่ใช้เป็นอาหารวัวได้ แต่ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือกับสมาชิกภายในสหกรณ์ให้หยุดนำกากมันมาให้วัวนมกินแล้วเพื่อดูกากมันดังกล่าวใช่สาเหตุหลักที่ทำให้วัวตายหรือไม่