ขีดเส้นตายเจ็ตสกีพัทยา! ไม่เปลี่ยนประเภทเรือภายในสิ้นเดือน ต.ค.ไม่ให้ทำกิน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี พร้อมกรมเจ้าท่า เรียกผู้ประกอบการเจ็ตสกีพัทยา จอมเทียน เกาะล้าน ถกประชุมขึ้นทะเบียนเปลี่ยนประเภทเรือเพื่อทำประกันแก้ปัญหาเจ็ตสกีหัวหมอ เผยสิ้นเดือนตุลาคมนี้หากไม่ดำเนินการไม่อนุญาตให้ทำกิน

วันนี้ (12 ต.ค.) ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายบุญชัย ทันสมัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 ตัวแทนบริษัทไทศรีประกันภัย ร่วมประชุมร่วมกับผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีทั้ง 3 หาด ประกอบด้วย หาดพัทยา หาดจอมเทียน และหาดเกาะล้าน เพื่อชี้แจงเรื่องของการเปลี่ยนแปลงประเภทเรือ จากเรือสำราญกีฬามาเป็นเรือเพื่อเช่า เพื่อให้การดำเนินการเรือเจ็ตสกีสามารถประกอบการได้แบบถูกกฎหมาย หลังมีคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง หลังจากตัวแทนจากประเทศอินเดียได้ทำหนังสือเพื่อขอทราบรายละเอียดการทำงานของเมืองพัทยาต่อเรื่องดังกล่าวผ่านทางรัฐบาล

ทั้งนี้ ทางสำนักงานเจ้าท่า ได้มีแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นด้วยการนำหลักนิติศาสตร์มาปรับใช้ โดยการเปลี่ยนแปลงประเภทเรือให้แก่ผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีที่มีความสมัครใจจะเปลี่ยนประเภทเรือเจ็ตสกี จากเรือสำราญกีฬา มาเป็นเรือเพื่อเช่า ซึ่งจะต้องดำเนินการตามข้อกำหนดที่กรมเจ้าท่ากำหนดไว้ ในเรื่องของการทำประกันภัย โดยได้กำหนดระยะเวลาของการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายวันที่ 31 ตุลาคม 2558 นี้ ที่สำนักงานเจ้าท่าพัทยา

โดยหลักฐานของการของเปลี่ยนประเภทเรือ ประกอบด้วย 1.สำเนาบัตรประชาชน 2.สำเนารับรองการตรวจเรือ สำเนาประกันภัย และกรมธรรม์ประกันภัยที่มีผลคุ้มครองชีวิตร่างกายของผู้ใช้เรือ ซึ่งหลังจากวันที่ 31 ตุลาคม 2558 หากเจ็ตสกีลำใดไม่ดำเนินการเปลี่ยนประเภทเรือและทำประกันเรือ จะไม่สามารถนำเจ็ตสกีให้บริการต่อนักท่องเที่ยวได้ และหากมีการผ่าฝืนจะมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกระบวนการบังคับใช้ทางกฎหมายต่อไป

นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูลปัจจุบัน พบว่า มีเรือที่นำเอกสารมาแสดงทั้งสิ้น 401 ลำ จากของเดิมคือ 401 ลำ เพราะนโยบายจังหวัดชลบุรี ได้กำหนดไม่ให้มีการเพิ่มจำนวนเจ็ตสกี ซึ่งจะได้รายงานผลการประชุมครั้งนี้ต่อเมืองพัทยา เพื่อนำไปชี้แจงในที่ประชุมร่วมกับตัวแทนจากประเทศอินเดีย ก่อนจะมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันต่อไป