xs
xsm
sm
md
lg

โดนทุกดอก! ชำแหละมาเฟียแท็กซี่เชียงใหม่ รีดหนักทั้งค่าป้าย-คิว-ดอกเบี้ยมหาโหด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงใหม่ - แฉชัด มาเฟียแท็กซี่-รถบริการสาธารณะเชียงใหม่ พบคนขับแท็กซี่ สี่ล้อแดง ตุ๊กตุ๊ก โดนรีดหนักทุกดอก ตั้งแต่ค่าป้าย ค่าคิว ดอกเบี้ยไฟแนนซ์ ยันค่าต่อทะเบียน รวมเม็ดเงินผลประโยชน์มากกว่าพันล้านบาท

วันนี้ (7 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยข้อเท็จจริงแล้วปมปัญหาที่แท็กซี่เชียงใหม่ประท้วงหยุดวิ่งตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 58 เป็นต้นมา เป็นปัญหาที่สั่งสมมาเนิ่นนาน ทั้งจำนวนรถแท็กซี่ที่ออกสู่ท้องถนนเชียงใหม่ และจำนวนรถสองแถว (รถแดง) ที่ยังคงเรียกเก็บค่าโดยสารตามใจชอบ โดยไม่มีกฎระเบียบควบคุมได้

ซึ่งระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่มีรถสาธารณะบริการอยู่ 3 ชนิด คือ แท็กซี่, สามล้อรับจ้าง (ตุ๊กตุ๊ก) และรถสองแถว (รถแดง) แต่ใครก็ตามที่จะเข้ามายึดอาชีพวิ่งรถบริการทั้ง 3 ชนิดนี้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายชนิดที่เรียกว่า มหาโหด กันเลยทีเดียว

ประกอบด้วย ค่าป้ายทะเบียนรถแท็กซี่ กล่าวคือ ใครก็ตามที่ต้องการจะขับรถแท็กซี่ เบื้องต้นต้องไปซื้อรถที่มีอายุไม่เกิน 2 ปี แล้วไปสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ และต้องจ่ายเงินค่าป้ายทะเบียนสีเหลือง เป็นมูลค่า 270,000 บาท

เมื่อได้รถแล้วต้องนำรถไปเช่าซื้อกับบริษัทไฟแนนซ์ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับสหกรณ์ฯ เพียงรายเดียวเท่านั้น โดยจะคิดดอกเบี้ยสำหรับรถแท็กซี่สูงเป็นพิเศษ เช่น หากสมาชิกซื้อรถใหม่แล้วนำรถไปทำเป็นแท็กซี่จะเสียดอกเบี้ยอย่างน้อยร้อยละ 7 บาท

ขณะเดียวกัน สหกรณ์ฯ ก็รับจ้างต่อภาษีประจำปีรถแท็กซี่ทุกคัน โดยมี “คุณ ม.” ซึ่งเรียกเก็บเงินคันละ 750 บาทต่อครั้ง (แท็กซี่ 500 คัน คันละ 750 บาท เป็นเงิน 375,000 บาท) โดยไม่ต้องนำแท็กซี่ไปตรวจสภาพ (ปกติแท็กซี่จะต้องตรวจสภาพปีละ 2 ครั้ง) แท็กซี่คันไหนมีปัญหา สุดท้ายจะไม่สามารถต่อทะเบียนได้

ส่วนแท็กซี่ส่วนบุคคล (สีเหลือง-แดง) จะไม่สามารถใช้บริการบริษัทไฟแนนซ์ที่ว่านี้ได้ เนื่องจากสหกรณ์ฯ ห้ามมิให้เช่าซื้อไฟแนนซ์อื่น ทำให้แท็กซี่ส่วนบุคคลที่ราคาค่าป้ายทะเบียนแสนถูกมีจำนวนน้อยมาก อีกทั้งยังไม่สามารถไปขอจดทะเบียนที่ขนส่งได้อีกด้วย

หากดูจากจำนวนรถบริการสาธารณะในเชียงใหม่แล้ว จะพบว่าแต่ละปีมีเม็ดเงินผลประโยชน์มากมายมหาศาล

กล่าวคือ กรณีแท็กซี่หากมีผู้ต้องการรถแท็กซี่ก็จะต้องซื้อป้ายทะเบียน รถแท็กซี่ 500 คัน คันละ 270,000 บาท จะเป็นเงินทั้งสิ้น 135 ล้านบาท, รถแดงเสียค่าป้าย 4,500 คัน คันละ 200,000 บาท รวมเป็นเงิน 900 ล้านบาท, รถตุ๊กตุ๊ก 500 คัน เสียค่าป้ายคันละ 120,000 บาท เป็นเงิน 60 ล้านบาท

รวมแล้วเฉพาะค่าป้ายรถบริการสาธารณะจะมีเม็ดเงินผลประโยชน์มากถึง 1,095 ล้านบาท

เมื่อคนขับได้รับป้าย และมีรถแล้ว จะเลือกวิ่งแบบอิสระเหมือนในกรุงเทพฯ ก็ได้ แต่ปัญหาคือ ชาวเชียงใหม่ไม่นิยมใช้บริการรถแท็กซี่เนื่องจากมีราคาแพง นิยมใช้จักรยานยนต์ รถยนต์ส่วนตัวกันเป็นหลัก ทำให้เจ้าของแท็กซี่จำเป็นต้องเลือกสถานที่จอดเพื่อรับผู้โดยสารประจำ และต้องเสียค่าคิว

เช่น สนามบินเชียงใหม่ หากเจ้าของรถต้องการวิ่งรับส่งผู้โดยสารภายในสนามบินเชียงใหม่จะต้องจ่ายค่าคิวให้แก่ผู้ที่ประมูลคิวแท็กซี่สนามบินจากการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งเดิมบริษัทเจ็ดยอดเคยได้สัมปทานเป็นเวลา 6 ปี คนขับแท็กซี่ต้องจ่ายค่าคิวรายปีและค่าคิวรายเดือน รายปี 20,000 บาท รายเดือน 8,000 บาท

และในระหว่าง 6 ปีที่ผ่านมาสหกรณ์เดินรถแพ้ประมูล สหกรณ์ฯ ได้ผลักดันจนสามารถเปิดให้มีการบริการรถตู้ Shuttle Bus วิ่งรับส่งผู้โดยสารฝั่งผู้โดยสารอาคารขาเข้าระหว่างประเทศ โดยอ้างว่าไม่มีรถบริการรับส่งผู้โดยสารอย่างเพียงพอ ซึ่งหากใครต้องการวิ่งรถตู้นี้จะต้องจ่ายค่าคิวคันละ 300,000 บาท หรือจะเช่ารถตู้วิ่งก็ได้ โดยคิดค่าเช่าวันละ 1,000 บาท และจ่ายรายเดือนอีกต่างหาก

แน่นอน หากพิจารณาตามเนื้อหาแล้ว เส้นทางวิ่งของ Shuttle Bus ดูเหมือนจะเป็นการทับซ้อนสัมปทานของบริษัทเจ็ดยอดที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าให้บริการแท็กซี่รับส่งทั้งผู้โดยสารขาเข้าในประเทศและระหว่างประเทศ เพราะนอกจากจะมีแท็กซี่มิเตอร์ที่ให้บริการแล้ว ยังมีแท็กซี่ลิมูซีนที่บริหารโดยทหารอากาศให้บริการอยู่ รวมจำนวนแท็กซี่มิเตอร์-แท็กซี่ลิมูซีน ก็มีถึงกว่า 300 คันแล้ว

ต่อมาบริษัทเจ็ดยอดได้หมดสัมปทานลงเมื่อ 30 ก.ย. 58 การท่าอากาศยานได้เปิดประมูลสัมปทานขึ้นใหม่ ผู้ที่ประมูลได้คือบริษัท คาร์เรนทัล จำกัด ด้วยราคาประมูล 1,5xx,xxx บาทต่อเดือน และกำหนดค่าคิวรายปีที่แท็กซี่ทุกคันต้องจ่ายคือ รายปี 25,000 บาท รายเดือน 4,000 บาท พร้อมหักค่าบิลทุกเที่ยวของแท็กซี่ เที่ยวละ 50 บาท

แต่ปมปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็คือ สหกรณ์ฯ ที่แพ้การประมูลอีกครั้ง ห้ามแท็กซี่ในสังกัดนำรถวิ่งให้บริการร่วมกับบริษัทคาร์เรนทัล นับตั้งแต่ 1 ต.ค. 58 เป็นต้นมา

ว่ากันว่า งานนี้ใครฝ่าฝืน เจอปลดป้ายทันที!!
กำลังโหลดความคิดเห็น