xs
xsm
sm
md
lg

ยกนิ้วให้เลย! หนุ่มนายหน้าอสังหาฯ เช่าที่เปิดห้องสมุด “Bizkit” หนุนคนเชียงรายอ่านหนังสือฟรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงราย - คนรักการอ่าน ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานวัยเรียน รวมถึงเด็ก เยาวชนทั่วไปต่างชื่นชมกันทั่ว หลังหนุ่มนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ใจดี ควักกระเป๋าเช่าอาคาร-ติดแอร์เปิดห้องสมุด “Bizkit” ขนหนังสือให้ยืมอ่านฟรีหลายพันเล่ม บอกเติมเต็มวัยเด็กได้เรียนแค่ ม.ต้น แต่ได้ดีเพราะ “หนังสือ” ขณะที่สังคมไทยหาห้องสมุดที่มีคุณภาพยาก

วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในแวดวงคนรักการอ่าน เด็ก และเยาวชน รวมถึงผู้ปกครองในตัวเมืองเชียงราย ต่างพากันพูดถึงด้วยความชื่นชม และเข้าไปใช้บริการหยิบยืมหนังสือจากห้องสมุด “Bizkit” ที่อยู่ในอาคารสระว่ายน้ำไม่มีเลขที่ หมู่บ้านลานทอง ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย ที่เปิดให้เยาวชนเข้าไปหาอ่านหนังสือ และให้ยืมฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ รวมทั้งยังมีขนมบริการเด็กๆ เป็นประจำอีกด้วย

โดยห้องสมุดดังกล่าวเป็นห้องขนาดย่อม ติดแอร์พร้อมสรรพ และจัดวางโต๊ะ เก้าอี้ หนังสืออย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ภายในเน้นการให้อ่านหนังสือความรู้ทั่วไป หนังสือน่าอ่านอิงประวัติศาสตร์ และข้อคิด รวมไปถึงการ์ตูนที่เด็กๆ นิยม จึงเรียกได้ว่าแต่ละเล่มมีการคัดสรรมาเป็นอย่างดี

นายภราดร ไชยวรศิลป์ อายุ 33 ปี เจ้าของห้องสมุด Bizkit เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเป็นตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ และเขียนภาพในหนังสือที่มีผู้สนใจว่าจ้าง พอมีรายได้อยู่บ้าง จึงนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งมาเช่าอาคารสระว่ายน้ำแห่งนี้เดือนละ 5,000 บาท

จากนั้นปรับปรุงสถานที่ พัฒนาเป็นห้องสมุด เพื่อให้เด็ก และเยาวชนเข้ามาอ่านหนังสือ หรือหากผู้ใหญ่ทั่วไปสนใจก็ยินดีเชิญมาหาอ่าน และยืมหนังสือได้ทุกเมื่อเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีหนังสือที่เก็บเอาไว้ในห้องสมุดประมาณ 7,000 เล่มแล้ว เป็นหนังสือที่ตนสะสมเอาไว้เองประมาณ 5,000 เล่ม และหนังสือที่มีผู้นำมาบริจาค เพราะเห็นถึงความสำคัญของการอ่านอีกราว 2,000 เล่ม

“ผมเน้นหนังสือคุณภาพ และน่าอ่านเหมาะสำหรับคนทั่วไป โดยเฉพาะเด็ก และเยาวชน รวมทั้งยังมีกิจกรรมให้เด็กๆ ที่มาห้องสมุด ซึ่งอาจไม่ได้รู้จักกันมาก่อนได้เล่นเกม เพื่อสร้างความสัมพันธ์ และลับสมองร่วมกันด้วย”

นายภราดรกล่าวว่า สาเหตุที่ตนทำอย่างนี้เพราะชอบการอ่านมาตั้งแต่เด็ก ตอนอายุได้ประมาณ 14 ปีก็ออกจากโรงเรียนระดับมัธยมต้นที่ อ.แม่สาย ซึ่งเป็นภูมิลำเนา จากนั้นไปทำงานที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง โดยไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสืออีกเลย แต่ก็อาศัยการใฝ่หาอ่านหนังสือตามสถานที่ต่างๆ จนปัจจุบันสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ดีเพราะการอ่านหนังสือ ตนจึงรู้ว่าการอ่านมีความสำคัญ

แต่สังคมไทยเรากลับหาห้องสมุดที่มีคุณภาพ หรือส่งเสริมเยาวชนจริงๆ ได้น้อยมาก แม้แต่สถานศึกษาต่างๆ ก็มีหนังสือตำราต่างๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ ห้องสมุดของภาครัฐต่างๆ ก็ไม่มีความหลากหลาย หรือหนังสือน่าอ่านสำหรับเยาวชน หลายแห่งมีแต่หนังสือวารสารดาราหรืออื่นๆ ที่ไม่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาความรู้ของเด็กด้วย

นายภราดรบอกว่า จากประสบการณ์ที่ตนต้องประสบมาตั้งแต่วัยเด็ก พอโตขึ้นมีงานทำ และมีกำลังระดับหนึ่ง จึงได้เติมเต็มด้วยการนำหนังสือที่สะสมออกมาทำเป็นห้องสมุดแล้วเปิดให้เด็กเข้ามาอ่านและยืมฟรี โดยทำห้องสมุดลักษณะนี้มาแล้ว 3 ครั้ง เช่น ที่ชุมชนสันโค้งหลวง แถวห้างทวียนต์ถนนใจกลางเมือง ฯลฯ เมื่อไม่ไหวก็ยุบไป แล้วมาทำที่ใหม่ไปเรื่อยๆ จนมาได้อาคารภายในหมู่บ้านลานทองนี้ ซึ่งคงจะอยู่ยาว เพราะทำสัญญาเช่านาน 3 ปี

“ทุกครั้งที่เปิดห้องสมุดก็มีเด็กๆ และเยาวชนรวมทั้งคนทั่วไปมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง วันละราว 30-50 คน บางครั้งก็มีผู้ปกครองนำลูกหลานมาเป็นกลุ่มๆ ซึ่งก็มีโต๊ะ เก้าอี้ พื้น ให้บริการตามความเหมาะสม บางวันก็มีขนมให้เด็กๆ ได้รับประทานด้วย ส่วนตัวผมก็อาศัยห้องสมุดนี้เป็นสถานที่โทรศัพท์ และทำงานไปในตัว” นายภราดรกล่าว

นายภราดรย้ำว่า กรณีคนยืมหนังสือก็ไม่ต้องเป็นสมาชิก หรือใช้บัตรเอกสารใดๆ เพียงแค่ตนขอถ่ายภาพเอาไว้เพื่อใช้ยืนยันว่าต้องเอาหนังสือมาคืน หากไม่เอามาคืนคนในภาพก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้ยืมอีก ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่พบปัญหา คนที่ยืมหนังสือไปก็นำมาคืนทุกครั้ง และหลายครั้งก็มีผู้ติดต่อขอยืมหนังสือทางไปรษณีย์ ซึ่งตนก็ยินดีจะส่งให้ หรือบางครั้งตนก็นำหนังสือไปนำเสนอให้หน่วยงานต่างๆ ที่เห็นว่าคนในหน่วยงานนั้นๆ ต้องการอ่านหนังสือดีมีคุณภาพ เช่น เรือนจำ โรงพยาบาล ฯลฯ ซึ่งสถานที่ต่างๆ ก็มีความยินดีที่จะยืมไปให้คนอ่านอย่างต่อเนื่อง

“เมื่อผมทำเช่นนี้ไปนานๆ ก็พบว่ามีคนเห็นใจและนำหนังสือที่มีอยู่มาบริจาคเพิ่มเติมให้ด้วย ซึ่งคนเหล่านี้เป็นเหมือนผู้ที่มีอุดมการณ์สอดคล้องกัน มาร่วมกัน ซึ่งผมต้องขอขอบคุณอย่างมาก”

กำลังโหลดความคิดเห็น