ลำปาง - ชาวเมืองรถม้าวิจารณ์กันขรม หลังเจอทิ้งทวนก่อนเกษียณแบบชวนสงสัย ทั้งซุ่มดึงแบงก์หนุนเอกชนทำนิคมฯ การเกษตร - ยกที่ดินสโมสรข้าราชการ เนื้อที่ 5 ไร่ ตั้งอยู่กลางเมืองลำปาง ให้เอกชนเช่ายาว 30 ปี ในราคาแค่ 3 ล้านเศษ บวกค่าเช่าเดือนละหมื่นกว่า ทั้งที่มีคนเสนอราคาสูงกว่า จนต้องตระเวนร้องขอความเป็นธรรม-ฟ้องศาลกันเป็นแถว
วันนี้ (3 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่ามกลางบรรยากาศการรับ-ส่งมอบหน้าที่ระหว่างข้าราชการที่เกษียณอายุเมื่อ 30 ก.ย.ที่ผ่านมาแก่ผู้ที่มารับตำแหน่งใหม่ที่ยังคงอบอวลอยู่แทบทุกจังหวัดนั้น ขณะนี้ชาวลำปางกำลังกล่าวขวัญถึงอดีตผู้ว่าราชจังหวัดฯ นายธานินทร์ สุภาแสน ที่เพิ่งเกษียณอายุราชการกันอย่างหนาหู
โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมานายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางซึ่งทำหน้าที่พ่อเมือง ได้ริเริ่มโครงการใหม่ๆ เน้นไปในเรื่องของการท่องเที่ยว ควบคู่กับการหาพันธมิตรด้านการค้ากับต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของจังหวัด และต่อยอดได้ในอนาคต
ดังนั้น ในรอบสองปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าลำปางมีการจัดงานต่างๆ มากกมายเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ที่ได้พูดไว้ตั้งแต่ย่างก้าวขึ้นเป็นพ่อเมืองลำปางเมื่อปี 2556 ว่า “อย่าไปโหยหาอดีตที่เคยรุ่งโรจน์ อยู่กับปัจจุบัน และไปสู่อนาคตร่วมกัน ทำให้จังหวัดลำปางเป็นนครแห่งความสุขและสุจริต” พร้อมกับวางยุทธศาสตร์จังหวัดลำปาง ออกเป็น 4 ด้าน คือ สุขเศรษฐกิจมั่งคั่ง, สุขคุณภาพชีวิตดียั่งยืน, สุขชีวิตปลอดภัยและมั่งคง และสุขทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดี
สิ่งที่เห็นโดดเด่นในช่วงปีที่ 2 ที่นายธานินทร์ สุภาแสน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ ลำปาง คือ การสนับสนุนกลุ่มเกษตรกร เพื่อให้หันมาทำนา อาชีพดั้งเดิมของบรรพบุรุษ มีการทำโรงเรียนชาวนาขึ้นมาหลายพื้นที่ และผลการดำเนินงานก็ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ รวมถึงการส่งเสริมให้ชาวนาหันมาปลูกข้าวไรซ์เบอร์รีน้ำแร่แจ้ซ้อนที่อำเภอเมืองปาน แทนการปลูกข้าวขาวปกติทั่วไปที่ขายได้ราคาถูก, สนับสนุนให้จังหวัดลำปางเป็นนครแห่งจักรยาน, ส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางธรรมชาติด้วยรถไฟซึ่งก็กำลังต่อยอดมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีการเปิดใช้จวนผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หลังเก่าทำเป็นหอประวัติศาสตร์ ที่แต่เดิมยังไม่มีการรวบรวมเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ โดยเฉพาะการรวบรวมประวัติของผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งปัจจุบันมีถึง 41 คนแล้ว และท้ายสุดผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางยังได้ออกแบบจังหวัดลำปางในปี 2020 ไว้ด้วยว่า “นครลำปางจะเป็นเมืองที่มีศักยภาพ และเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนของภาคเหนือ ตัวเลขทางเศรษฐกิจจะโตแบบก้าวกระโดด”
ทั้งนี้ เนื่องจากจะมีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้น อาทิ โครงการศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า ซึ่งจะเกิดขึ้นที่อำเภอเกาะคา, การก่อสร้างสนามบินนานาชาติแห่งที่ 2 ที่อำเภอห้างฉัตร, อุตสาหกรรมเซรามิก ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของลำปางจะได้รับการพัฒนาเทคนิคใหม่ๆ เพื่อให้สินค้ามีคุณภาพและได้มาตรฐานสากลแต่ยังคงเอกลักษณ์ของลำปางไว้ นอกจากนี้ นครลำปางจะเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย โดยเฉพาะข้าวสีที่อำเภอเมืองปาน และชาวลำปาง จะมีสุขภาพดีขึ้น เพราะหันมาใช้จักรยานกันมากขึ้น
แต่ห้วง 1 สัปดาห์สุดท้ายของการทำหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กลับได้มีการลงนามเซ็นเอกสารสำคัญหลายฉบับ จนกลายเป็นเรื่องที่พูดถึงกันอย่างหนาหูในขณะนี้ โดยเฉพาะการลงนาม MOU ระหว่างจังหวัดลำปางกับธนาคารธนชาต ในการเข้ามาสนับสนุนด้านการเงินให้กับบริษัทเอกชนซึ่งเป็นที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางมาก่อนหน้านี้ ในการเข้ามาดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรมการเกษตร ต่อยอดจากโครงการศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า
นัยว่า เพื่อให้สอดรับกับสินค้าเกษตรคือข้าวสี ในพื้นที่อำเภอเมืองปาน ซึ่งก่อนหน้านี้อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยทีมที่ปรึกษา ได้เดินทางไปพบทางการจีน เพื่อประสานงานเกี่ยวกับการขอโควตาข้าวสี และสินค้าเกษตรเรียบร้อยแล้ว
และมีรายงานว่า ทางญาติอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้ซื้อพื้นที่ในเขตอำเภอเมืองปานไว้บางส่วน พร้อมบริเวณแถวไร่หญ้ารีสอร์ตที่ทำข้าวน้ำแร่ และมีการให้สถาบันการศึกษาวิเคราะห์สารอาหารเพื่อยืนยันคุณภาพที่เหนือกว่าข้าวทั่วไปเรียบร้อยแล้วเพื่อเตรียมปลูกข้าวสี ก็จะเดินหน้าปลูกข้าวสีในพื้นที่เป้าหมายด้วย ในอนาคตหากสินค้าไม่เพียงพอจะมีการระดมทั้งภาคเหนือเพื่อปลูกข้าวสีส่งไปยังประเทศจีน
นอกจากนี้ยังการลงนามในฐานะ “นายกสมาคมสโมสรข้าราชการจังหวัดลำปาง” อนุมัติให้เอกชนเข้ามาทำสัญญาเช่าพื้นที่สโมสรฯ เนื้อที่ 5 ไร่เศษ ซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองด้วยระยะเวลานานถึง 30 ปี ด้วยราคาประมูลเพียง 3 ล้านบาทเศษ และค่าเช่ารายเดือนๆละหมื่นกว่าบาทเท่านั้น โดยใช้เวลาในการพิจารณาคัดเลือก 20 วัน และได้มีการประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกแล้วเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเอกชนที่ได้รับคัดเลือก คือ บริษัท เดอะ สลิป จำกัด และ บริษัท สลีป แอทสยาม จำกัด ว่ากันว่าเสนอผลตอบแทนต่ำกว่าเอกชนรายอื่นที่ยื่นเสนอแผนงานทั้งสิ้น 6 ราย
ล่าสุด ขณะนี้เอกชนที่ร่วมเสนอแผนงานเข้าแข่งขัน พร้อมด้วยผลตอบแทนที่สูงกว่า ได้ร้องไปยัง ป.ป.ช., สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน, ศาลปกครองเชียงใหม่, สำนักนายกรัฐมนตรี, สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินและจะเข้ายื่นฟ้องศาลจังหวัดลำปาง ในเช้าวันที่ 5 ต.ค.นี้ เพื่อขอไต่สวนฉุกเฉิน ให้ระงับการการประกาศผลการคัดเลือกผู้เสนอแผนงานฯ
สำหรับพื้นที่ของสมาคมสโมสรข้าราชการจังหวัดลำปางนั้น เดิมได้รับบริจาคที่ดินจากประชาชนเพื่อใช้เป็นสาธารณประโยชน์ โดยให้คำนึงถึงประโยชน์ของสมาคมฯ-สมาชิก และประชาชนชาวลำปาง เป็นสำคัญ
