ลำปาง - ผู้ว่าฯเมืองรถม้า จรดปากกาลงนามใน MOU ร่วมกับธนาคารธนชาต หนุนเงินทุนให้เอกชนลงทุนตั้งนิคมอุตสาหกรรมการเกษตรลำปาง เล็งพื้นที่ 4 อำเภอ รอธนารักษ์เคาะอีกรอบ คาดอีก 3 ปี เห็นเป็นรูปธรรมแน่
นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และ ดร.สุทัต จิตมั่นคงสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการผู้บริหารธุรกิจลูกค้าขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารธนชาต จำกัด(มหาชน) ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างจังหวัดลำปาง และธนาคารธนชาตจำกัด(มหาชน) เพื่อสนับสนุนด้านเงินทุนให้กับภาคเอกชน ที่จะเข้ามาพัฒนานิคมอุตสาหกรรม(การเกษตร)จังหวัดลำปาง อันเป็นการเพิ่มศักยภาพการเศรษฐกิจของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล และการนิคมแห่งประเทศไทย
โดยมีข้อตกลงร่วมกันคือ 1.จังหวัดลำปาง รับเป็นผู้แนะนำให้การสนับสนุนข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมตามข้อกำหนดของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการแก่เอกชนที่มีความประสงค์เข้ามาดำเนินกิจการในนิคมอุตสาหกรรม ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่การนิคมอุตสาหกรรม นโยบายรัฐบาล และกฎหมายที่กำหนด
2. ธนาคารธนชาต ในฐานะสถาบันการเงินยินดีให้การสนับสนุนเงินลงทุน ในการจัดการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง โดยการอำนวยความสะดวกด้านสินเชื่อแก่เอกชนที่สนใจมาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม ภายใต้การพิจารณาและหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อตามที่ธนาคารกำหนด
ดร.สุทัต จิตมั่นคงสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการผู้บริหารธุรกิจลูกค้าขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารธนชาต จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารมีสาขาทั่วประเทศถึง 600 สาขา และถือเป็นธนาคารแรกที่เสนอตัวเข้ามาร่วมสนองนโยบายของรัฐบาล คือ นโยบายให้ดอกเบี้ยถูกกับ SME เพื่อช่วยกระตึ้นเศรษฐกิจของประทศ นอกจากนนี้ธนาคารยังต้องการเป็นแหล่งเงินทุนให้กับภาคเอกชน ที่ร่วมดำเนินโครงการกับทางภาครัฐ และจังหวัดลำปางถือเป็นจังหวัดแรกที่ทางธนาคารเสนอตัวเข้าร่วมเป็นแหล่งทุนให้กับเอกชน ที่จะเข้าดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรม หากดำเนินการสำเร็จก็จะใช้จังหวัดลำปางเป็นโมเดล นำร่องในจังหวัดอื่นๆในลักษณะเดียวกันต่อไป
ด้านดร.อัศวิน วัฒนปราโมทย์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท โพรแลค ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทเห็นถึงศักยภาพของจังหวัดลำปาง และที่ผ่านมาบริษัทเป็นผู้ประสานงานความร่วมมือกับประเทศจีน จนสามารถเสนอสินค้าทางการเกษตรของลำปางให้กับประเทศจีนได้ โดยเฉพาะข้าวไรซ์เบอร์รี่ ที่มีความโดดเด่น และเป็นที่ต้องการของลาดจีน ทำให้ในขณะนี้จังหวัดลำปาง สามารถส่งสินค้าทางการเกษตรทุกชนิดที่สามารถบริโภคได้ให้กับประเทศจีน แต่ทั้งนี้ต้องมีการควบคุมด้านคุณภาพ
ดังนั้นทางบริษัทจึงสนใจและต้องการเข้ามาลงทุนร่วมกับจังหวัดลำปาง เพื่อทำนิคมอุตสาหกรรมการเกษตร ให้เป็นจุดแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ตรวจสอบคุณภาพสินค้า พัฒนาและต่อยอดสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เพื่อส่งจำหน่ายไปยังต่างประเทศ ซึ่งจะเชื่อมกับจุดกระจายสินค้าภาคเหนือที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะถ้ามีแค่ศูนย์กระจายสินค้าคนในพื้นที่ ก็จะไม่ได้รับประโยชน์มากนัก แต่เมื่อมีนิคมอุตสาหกรรมการเกษตรเกิดขึ้น ชาวลำปางจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ด้วย
ดร.อัศวิน กล่าวว่า โครงการนี้ต้องใช้งบประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปีจะแล้วเสร็จ ขณะนี้ถือว่าเริ่มเดินหน้าแล้ว มีการตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมาเพื่อดำเนินการในด้านต่างๆ ตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนพื้นที่ต้องรอผลสรุปจากธนารักษ์ เห็นชอบก่อนว่าจะใช้พื้นที่ขนาด 500 ไร่ขึ้นไปของธนารักษ์จุดไหนใน 4 อำเภอ คือ เมือง เกาะคา แม่ทะ และห้างฉัตร รวมทั้งโยธาธิการและผังเมืองเปิดไฟเขียวให้ทั้ง 4 พื้นที่ ที่สามารถตั้งโรงงานได้ด้วย
