ศูนย์ข่าวศรีราชา - หนุ่มฮีโร่ไม่เปิดเผยตัวขี่รถจักรยานยนต์ไล่จับคนร้ายกระชากสร้อย หลังก่อเหตุเพียง 10 นาที ก่อนตำรวจมาถึง และหายตัวไปไร้วี่แวว เผยคนร้ายเพิ่งออกมาจากคุกคดีเสพยาเสพติดมาได้เพียง 5 เดือน พร้อมเตรียมขยายผลเพราะมีเหตุลักษณะนี้หลายครั้ง
วันนี้ (29 ก.ย.) พ.ต.อ.ภพพล จักกะพาก ผกก.สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศิระกราน ต้นสงวน รอง ผกก.ป. รับรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 100 สีน้ำเงินดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท บริเวณสี่แยกไฟแดงวัดวังหิน ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งอยู่หน้า สภ.ศรีราชา แล้วหลบหนีไปทางเส้นสุขุมวิท จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบปฏิบัติหน้าที่ติดตามคนร้ายรายนี้มาให้ได้
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่เกิดเหตุ พบ น.ส.มาลี มีชนะ อายุ 22 ปี ยืนตัวสั่นอยู่ในสภาพตกใจ จึงรีบนำตัวขึ้นรถกระบะติดตามเส้นทางของคนร้ายตามที่ได้รับแจ้ง ซึ่งโชคดีมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ขับรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามคนร้ายไปอย่างกระชั้นชิด จึงวิทยุสกัดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายอาจจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี
จนกระทั่งติดตามมาถึงถนนเส้นบ่อก๊อก-วัดบ่อหิน ต.สุรศักดิ์ พลเมืองดี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตามมาทัน ก่อนคนร้ายจะเห็นท่าไม่ดีทิ้งรถก่อนหนีเข้าป่าหญ้า พลเมืองดี และตำรวจตามเข้าไปจับกุมตัวไว้ได้ พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมจี้ 1 เส้น ก่อนที่พลเมืองดีจะหายตัวไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป
สำหรับผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายสาโรจน์ ศรีรุ่งเรือง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216/141 หมู่ 5 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีอาชีพขี่สามล้อรับจ้างบริเวณตลาดสดศรีราชา โดยยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง และเผยว่าเพิ่งออกจากคุกมาได้เพียง 5 เดือนในคดีเสพยาเสพติด ก่อนมาขับสามล้อรับจ้างแล้วมาก่อเหตุดังกล่าว
ด้าน น.ส.มาลี มีชนะ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ขณะตนขับรถจักรยานยนต์จะไปทำงาน ขณะจอดรถติดไฟแดงอยู่นั้นได้มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาด้านหลัง ก่อนเอื้อมมือมากระชากสร้อยคอตนไป ตนจึงร้องตกใจก่อนที่จะมีพลเมืองดีซึ่งตนจำหน้าไม่ได้ ถามว่าเป็นอะไร ตนก็ตอบไปว่าโดนกระชากสร้อย ทำให้หนุ่มพลเมืองดีคนนั้นขับตามไป แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มารับตนไปไล่ล่าติดตามตัวคนร้าย จนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด
หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสาโรจน์ ไปค้นบ้านพักเพื่อที่จะทำการสอบสวนขยายผล เนื่องจากในพื้นที่ศรีราชา และบริเวณใกล้เคียงมีเหตุการณ์ชิงทรัพย์ลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งรูปพรรณสัณฐานใกล้เคียงกันมาก ผู้ต้องหาอาจจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งก็เป็นได้