ศูนย์ข่าวศรีราชา - ศูนย์สุขภาพและการเรียนรู้เครือไทยออยล์ นำสื่อมวลชนพื้นที่ร่วมกิจกรรมตรวจสุขภาพฟัน ประจำปี 2558 เผยการจัดกิจกรรมตลอด 4 ปีที่ผ่านมา สามารถลดปัญหาฟันผุของเยาวชนในพื้นที่ และประชาชนในชุมชนรอบโรงกลั่นได้เป็นจำนวนมาก
วันนี้ (29 ก.ย.) ศูนย์สุขภาพและการเรียนรู้เครือไทยออยล์เพื่อชุมชน ได้นำสื่อมวลชนในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ร่วมกิจกรรมตรวจสุขภาพฟัน ประจำปี 2558 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ศูนย์ฯ จัดขึ้นเพื่อดูแลประชาชนในชุมชนรอบโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ศรีราชา รวมทั้งนักเรียน และครูในสถานศึกษาที่อยู่ในการดูแลทั้ง 8 แห่ง ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 โดยมี นายเลอเลิศ อมรสังข์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ และบริหารงานชุมชนในเครือไทยออยล์ให้การต้อนรับ และบรรยายถึงภารกิจของศูนย์ฯ
นายเลอเลิศ กล่าวว่า ศูนย์สุขภาพและการเรียนรู้เครือไทยออยล์จัดตั้งเพื่อเป็นศูนย์กลางในการดูแลภารกิจทางสังคม โดยมีภารกิจหลัก 2 ประการ คือ รณรงค์และส่งเสริมด้านสุขภาพของคนในพื้นที่ และในชุมชนรอบโรงกลั่นทั้ง 10 ชุมชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และเป็นศูนย์เรียนรู้ในการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจในการอยู่ร่วมกัน รวมทั้งต่อยอดภูมิปัญญาของคนในพื้นที่ และในชุมชน
ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งที่เครือไทยออยล์ตั้งใจทำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการดูแลด้านสุขภาวะทางทันตกรรมให้แก่เยาวชนในพื้นที่ศรีราชา และตำบลแหลมฉบัง โดยขณะนี้ทางศูนย์ฯ ได้ร่วมกับโรงพยาบาลแหลมฉบัง ในการจัดส่งเจ้าหน้าที่ทันตแพทย์ และทันตพยาบาลเข้าร่วมสนับสนุน โดยที่บริษัทฯ เป็นผู้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย ภายใต้เป้าหมายให้เยาวชนในพื้นที่ตั้งแต่ระดับชั้น ป.1-6 ได้รับการดูแลด้านสุขภาวะฟันที่ดี เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความแข็งแรง และมีสุขภาพดี เนื่องเพราะช่องปากถือเป็นหน้าต่างแรกของสุขภาพ
ที่สำคัญยังมีเป้าหมายลดการปวดฟัน ลดอาการฟันฝุ และการขาดเรียนของเยาวชน ซึ่งพบว่าสถิติการลาหยุดเรียนของเยาวชนในพื้นที่จากอาการปวดฟันตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนลดลง
“ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เรามีเยาวชนในพื้นที่ที่ได้รับการรักษา และดูแลสุขภาพปากหมุนเวียนกันเข้าตรวจไม่น้อยกว่า 2 หมื่นรอบ และจากสถิติที่เราทำมาตลอด 4 ปี พบว่า สุขภาพฟันของเด็กในพื้นที่นครแหลมฉบัง เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติการเป็นโรคเหงือกอักเสบของเยาวชนในประเทศไทยแล้ว พบว่า เยาวชนในพื้นที่นครแหลมฉบัง ปัจจุบันเป็นโรคเหงือกอักเสบไม่ถึงร้อยละ 5 ถือเป็นผลดีจากการจัดทำโครงการนี้ เพราะนอกจากจะทำให้เด็กมีคุณภาพช่องปากที่ดีแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาฟันให้แก่ผู้ปกครองอีกด้วย”
นายเลอเลิศ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางศูนย์ยังได้ต่อยอดโครงการด้วยการร่วมกับโรงเรียนในเครือทันตสุขภาพทั้ง 8 แห่ง จัดกิจกรรมป้องกันปัญหาในช่องปากของเด็ก ด้วยการทำโปรแกรมป้องกันไม่ให้เด็กฟันผุ พร้อมให้ความรู้เรื่องการรับประทานอาหาร และไม่ให้มีการขายขนมขบเคี้ยว รวมทั้งน้ำหวานในโรงเรียน และยังมีแผนพิจารณารายการอาหารที่ขายให้แก่เด็กในโรงเรียนร่วมกับนักโภชนาการอีกด้วย
