อุบลราชธานี-ชาวบ้านเห็นกลุ่มโจรไม้พะยูงลอบเข้าตัดต้นไม้คู่โรงเรียน โทรศัพท์แจ้งตำรวจมาไล่จับ สุดท้ายหนีไม่พ้นกรรม รถขนไม้พลิกคว่ำถูกจับได้ 2 คน สารภาพร่วมกับเพื่อนอีกราว 7-8 คน แอบเข้ามาตัดไม้กลางดึก คิดไม่ถึงเจ้าหน้าที่จะจมูกไวจึงแยกย้ายกันหลบหนี และมาประสบอุบัติเหตุ
เมื่อเวลา 02.20 น. วันนี้ (27 ก.ย.) พ.ต.อ.ชวดล พลทะมัย ผกก.สภ.ห้วยขะยุง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งมีกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาลักลอบต้นพะยูง อายุกว่า 100 ปี มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 60-70 เซนติเมตร สูงเกือบ 10 เมตร ในโรงเรียนบ้านบุ่งหวาย ต.บุ่งหวาย จึงนำกำลังเข้าไปยังที่เกิดเหตุ
พบกลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์นั่ง และรถกระบะ จำนวน 4 คัน ช่วยกันขนไม้ที่ตัดเป็นท่อนได้บางส่วนขับหลบหนีไปตามถนนวารินชำราบ-กันทรลักษ์ มุ่งหน้าไปอำเภอสำโรง จึงขับรถไล่ติดตาม และวิทยุแจ้งให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.วารินชำราบ ร่วมสกัดจับ
ทั้งนี้ รถยนต์นั่งเชฟโรเลต สีดำ ทะเบียน ฌต 9524 กทม.และรถฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พยายามขับกันไม่ให้รถของเจ้าหน้าที่แซง และเมื่อถึงหน้าวัดบ้านคอนสาย ต.โนนโหนน รถขนไม้ตัดสินใจทิ้งไม้ยาวประมาณ 3 เมตร หน้ากว้าง 65 เซนติเมตรขวางถนน กันไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตาม ก่อนรถทั้ง 4 คัน แยกย้ายกันหลบหนี
รถยนต์เชฟโรเลตมุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอวารินชำราบ จึงขับไล่ติดตาม และมาเจอกับเจ้าหน้าที่สายตรวจตั้งด่านสกัดบริเวณถนนเทศบาล 12 ต.วารินชำราบ คนขับพยายามหักรถหลบหนี ทำให้รถพลิกคว่ำตกลงไปข้างถนน
คนร้ายอาศัยความมืดหนีไปหลบซ่อนในป่าละเมาะข้างถนน จึงปิดล้อมจนจับ นายสมพร โยนิพันธ์ อายุ 43 ปี และนายอานนท์ อุฌาภาค อายุ 27 ปี ราษฎรบ้านโนนสวาสดิ์ หมู่ 2 ต.หนองไฮ อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ ซ่อนตัวอยู่ในป่าห่างจากรถที่พลิกคว่ำประมาณ 40 เมตร โดยตามลำตัวมีบาดแผลจากอุบัติเหตุเล็กน้อย เมื่อตรวจในรถยังพบไม้พะยูงยาว 2 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 35 เมตร 1 ท่อน
สอบสวนนายสมพร รับสารภาพว่า ร่วมกับพวกประมาณ 7-8 คน มาตัดต้นพะยูงอายุกว่า 100 ปี ซึ่งขึ้นอยู่ในรั้วโรงเรียนบ้านบุ่งหวาย เพื่อส่งข้ามแม่น้ำโขงไปขายยังประเทศจีน เมื่อตัดไม้เพียงครู่เดียวคนดูต้นทางแจ้งว่า ชาวบ้านโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้นำกำลังเข้าจับกุม จึงขนไม้ที่ตัดได้บางส่วนขึ้นรถรีบหลบหนี
สำหรับรถที่นายสมพร และนายอานนท์ นั่งมา มีนายชิดชัย พิลาดวง หรือนายเดื่อย ราษฎรบ้านเดียวกันเป็นคนขับ และมาประสบอุบัติเหตุ ส่วนนายชิดชัย หลบหนีไปได้ จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมีไม้พะยูงหวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน และจะได้ขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมในขบวนการที่ยังหลบหนีทั้งหมดมาดำเนินคดี
ส่วนไม้พะยูงที่ถูกตัด และทิ้งไว้มีมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จะได้ลำเลียงส่งมอบให้สำนักงานป่าไม้จังหวัดอุบลราชธานี รับไปเก็บรักษาให้เป็นสมบัติของชาติต่อไป