เชียงใหม่ - ชาวสวนเชียงใหม่ ปลูก “กระเจียว-ทิวลิปสยาม” พร้อมรวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชน ส่งตลาดต่างประเทศทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ล่าสุด ทุ่งกระเจียวกำลังเบ่งบานออกดอกเต็มพื้นที่ ขณะที่เจ้าของสวนเตรียมตัดดอกออกหมดเดือนตุลาฯ นี้ เพื่อเลี้ยงหัวพันธุ์ให้ได้ขนาด ก่อนขุดขายฮอลแลนด์
วันนี้ (27 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ทุ่งดอกปทุมมา หรือกระเจียว หรือขมิ้นโคก หรือทิวลิปสยาม ที่ชาวบ้านหางดง สมาชิกวิสาหกิจชุมชนบ้านหนองออน ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพาะปลูกไว้ในสวนพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม กำลังกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่ทำเงินให้ชาวสวนเป็นกอบเป็นกำ
นายบุญส่วย และนางเพ็ญ เมฆคนอง ชาวบ้านหางดง หนึ่งในสมาชิกวิสาหกิจชุมชนบ้านหนองออน บอกว่า ปลูกดอกปทุมมา หรือกระเจียวหลากหลายสายพันธุ์ ในพื้นที่กว่า 50 ไร่ เพราะเป็นตลาดต่างประเทศต้องการสูงมาก ซึ่งขณะนี้กำลังออกดอกบานสะพรั่งอย่างสวยงามเต็มท้องทุ่ง แต่ดอกทั้งหมดจะถูกเด็ดทิ้งในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อเลี้ยงหัวพันธุ์ให้มีขนาดใหญ่ประมาณ 2 เซนติเมตร ก่อนส่งขายให้แก่ตลาดในประเทศฮอลแลนด์ในช่วงฤดูหนาว หรือประมาณเดือนธันวาคม ซึ่งจะได้ราคาดีหัวละ 5-10 บาท
นางเพ็ญ บอกว่า แต่ละปีลูกค้าชาวต่างชาติจะบินมาดูถึงสวนเพื่อคัดเลือกหัวพันธุ์นำไปปลูกขายในต่างประเทศ ซึ่งจะมีราคาแพงดอกละประมาณ 2 ยูโร หรือประมาณ 70 บาท ซึ่งชาวฮอลแลนด์ จะเรียกดอกปทุมมาว่า ทิวลิปสยาม
นางเพ็ญ บอกว่า ที่ผ่านมาจะเน้นปลูกเฉพาะพันธุ์เชียงใหม่พิงค์ แต่ขณะนี้ได้นำพันธุ์จากต่างประเทศมาเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์เพิ่ม ทั้งพันธุ์ชาโด้ พันธุ์สกาแลต ซึ่งดอกจะมีสีเข้ม เพื่อส่งออกให้แก่ลูกค้าในประเทศฮอลแลนด์
“ดอกปทุมมา เป็นพืชทนแล้ง อาศัยเฉพาะน้ำฝนหล่อเลี้ยงเท่านั้น แต่ต้องระวังในเรื่องโรคหัวเน่า และใบเป็นสนิมสีน้ำตาลอย่างเดียว คนที่จะเข้าแปลงปลูกต้องล้างรองเท้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนทุกครั้ง”
น.ส.ลำพู เมฆคนอง บุตรสาวเจ้าของสวนเมฆคนอง บอกว่า ขณะนี้มียอดออเดอร์จากต่างประเทศสั่งจองหัวพันธุ์ทิวลิปสยามมากกว่า 5 แสนหัว ขึ้นอยู่กับฤดูกาล แต่ละปีไม่เหมือนกัน บางปีนิยมปทุมมาพันธุ์แคระสีขาว นำไปปลูกเป็นไม้กระถาง มีคำสั่งซื้อเข้ามามากถึง 1 ล้านหัว ทำให้แต่ละปีทำเงินได้มากถึง 5-10 ล้านบาท และตลาดในแถบยุโรปยังสดใส
ในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ทางชาวสวนปทุมมา จากเชียงใหม่ และนักวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะนำดอกปทุมมา หรือทิวลิปสยาม พันธุ์เชียงใหม่พิงค์ พันธุ์สโนไวท์ และพันธุ์แดงดอยตุง ไปแสดงในงานไม้ดอกไม้ประดับ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 12-16 ตุลาคมนี้ เพื่อหาตลาดส่งออกใหม่ๆ อีกด้วย