ศูนย์ข่าวศรีราชา - โฆษกเมืองพัทยา ประกาศเตรียมความพร้อมเต็มที่รองรับปัญหาอุกภัยพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ระบุไม่อยากให้เกิดผลกระทบซ้ำสองเหมือนพิษ “หว่ามก๋อ” หลังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่อนหนังสือเตือนมีลมมรสุมรอบใหม่เคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ภาคตะวันออกระหว่างวันที่ 26-30 กันยายนนี้
บ่ายวันนี้ (25 ก.ย.) น.ส.ยุวธิดา จีรภัทร์ โฆษกเมืองพัทยา นำทีมงานพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เปิดแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับมาตรการการจัดเตรียมความพร้อมในการรองรับปัญหาอุทกภัยในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ในช่วงระหว่างวันที่ 26-30 กันยายนที่จะถึงนี้ หลังจากที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ออกหนังสือประกาศด่วนที่สุดถึงหน่วยงานราชการพื้นที่ 14 จังหวัด ในเขตภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน รวมถึงพื้นที่จังหวัดชลบุรี เพื่อให้เฝ้าระวังในการป้องกันปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน เนื่องจากปรากฏว่า มีลมมรสุมกำลังแรงเลื่อนลงมาพาดผ่านพื้นที่ของประเทศไทยในภูมิภาคดังกล่าว ซึ่งจะทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง รวมทั้งยังมีคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยสูงกว่า 2-3 เมตร
น.ส.ยุวธิดา กล่าวว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นหลังพายุดีเปรสชัน “หว่ามก๋อ” เคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคตะวันออก ส่งผลให้เมืองพัทยาได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงระหว่างวันที่ 15-17 กันยายนที่ผ่านมา โดยวัดค่าได้ถึง 132 มม./ชม.ซึ่งจากกรณีดังกล่าวก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่พัทยา และใกล้เคียงเป็นบริเวณกว้าง โดยจากผลการสำรวจพบว่า มีบ้านเรือนประชาชนที่เสียหาย และได้รับผลกระทบกว่า 1,500 หลังคาเรือน โดยเฉพาะในพื้นที่นาเกลือ ชายหาด และชุมชนริมถนนสุขุมวิท รวมทั้งยังไปสร้างความเสียหายในด้านของการท่องเที่ยวด้วย ดังนั้น จากการที่มีการประกาศเตือนพายุลูกใหม่ที่จะเคลื่อนตัวเข้าพื้นที่จึงได้มีการระดมสรรพกำลังในส่วนที่รับผิดชอบเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับต่อปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ
ด้าน นายสมภพ วันดี ผู้อำนวยการส่วนจัดการคุณภาพน้ำ สำนักการช่างสุขาภิบาล เมืองพัทยา กล่าวว่า สำหรับเมืองพัทยาเป็นพื้นที่ลาดต่ำ ทำให้มวลน้ำจากฝั่งตะวันออกไหลบ่าเข้าสู่พื้นที่อย่างรุนแรง โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านมาถือว่ามีปริมาณน้ำสูงที่สุดในรอบ 12 ปี จึงทำให้การรองรับเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากปริมาณน้ำมีมาก และมีระดับสูงจนทำให้อุปกรณ์ และระบบไฟฟ้าที่ใช้ในการระบายน้ำเสียหายอย่างหนัก ซึ่งปัจจุบันกำลังดำเนินการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ภายในวันที่ 26 กันยายนนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่จะมีมรสุมลูกใหม่เข้ามาในพื้นที่ตามประกาศนั้นในส่วนของเมืองพัทยาได้จัดกำลังคน อุปกรณ์ และเครื่องไม้เครื่องมือ รวมทั้งระบบการสื่อสารเพื่อเฝ้าระวังป้องกันอย่างเต็มกำลังแล้ว แม้จะไม่สามารถตอบได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมขังอีกหรือไม่เพราะไม่ทราบปริมาณฝนที่ตกลงมาในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ก็จะระดมกำลังลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด และทั่วถึง
ขณะที่สภาพพื้นที่ที่ยังน่าเป็นห่วงนั้นคงจะเป็นในส่วนของพื้นที่นาเกลือ ซึ่งวางแผนการปรับเปลี่ยนทิศทางของน้ำเพื่อให้ไหลลงสู่คลองสาธารณะ รวมทั้งชายหาดพัทยาที่จะทำการติดตั้งเครื่องสูบ และสำรวจสภาพฟุตปาธบริเวณชายหาดเพื่อเปิดช่องทางระบายน้ำเพิ่มเติม จำนวน 5-6 จุด และการรื้อถอนกระสอบทรายที่ผู้ประกอบการนำมาปิดกั้นทางน้ำไว้เพื่อให้น้ำไหลลงสู่ทะเลได้โดยสะดวก โดยหากพื้นที่ใดที่ประสบปัญหาก็สามารถประสานผ่านมายัง Call Center เมืองพัทยาที่เบอร์ 1337 เพื่อจัดส่งกำลังสนับสนุนในการลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน
