ศูนย์ข่าวศรีราชา - ปลัดบางละมุงควงคู่บุกทลายปาร์ตี้บ้านหรูกลางเมืองพัทยา ตะลึงไทย-เทศกว่า 50 ชีวิต เลี้ยงสังสรรค์สุดสนุก พบเหล้าไวน์หนีภาษีเพียบ พร้อมยึดรถหรูไว้ตรวจ 1 คัน
ร.อ.ท.ภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอบางละมุง ฝ่ายป้องกันฯ นายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอบางละมุง ฝ่ายความมั่นคง นายสมศักดิ์ คูรัตนศิริ นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการ สำนักงานสรรพาสามิต พื้นที่ชลบุรี 2 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ปกครองเข้าตรวจสอบบ้านพักเลขที่ 404/102-105 และ 404/122 ภายในโครงการหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านหาดจอมเทียน ภายหลังรับแจ้งว่า บ้านหลังดังกล่าวมีการเปิดเสียงเพลงรบกวน และมีการจัดปาร์ตี้ขึ้นบ่อยครั้ง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบบ้านหลังดังกล่าวถูกดัดแปลงให้สามารถเดินทะลุกันได้รวม 5 หลัง ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์อย่างดี มีสระน้ำอยู่ตามมุมต่างๆ ทั่วบริเวณบ้าน พบชายชาวต่างชาติกำลังดื่มสุราเปิดเพลงสังสรรค์กันกว่า 30 คน โดยมีหญิงสาวชาวไทยคอยให้บริการกว่า 20 คน
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบภายนอกพบรถยนต์หรูยี่ห้อปอร์เช่ สีขาว พานาเมร่า ทะเบียน ฆต 1 กทม. รถยนต์ยี่ห้อแอสตัน มาร์ติน รุ่นแวนควิช สีขาว ทะเบียน ฆข 1 กทม. และรถยนต์ยี่ห้อโรลส์ รอยซ์ สีขาว ทะเบียน ฆย 1 กทม. จอดอยู่ ตรวจสอบภายในบ้านพบว่า มีการนำสุรา ไวน์ และเบียร์ยี่ห้อต่างๆ มาเก็บไว้ตามมุม และตู้โชว์ภายในบ้านรวมกว่า 1,000 ขวด หนึ่งในนั้นมีสุรายี่ห้อ หลุยส์ เดอะ เธอทีนธ์ ซึ่งเป็นสุราราคาแพงที่มีราคากว่า 2 แสนบาท และยาสูบซิการ์ต่างประเทศกว่า 100 มวน รวมอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้ทำการตรวจสอบถึงที่มาว่าถูกต้องหรือไม่
สอบสวนความเบื้องต้นจาก น.ส.พรชนก คำภาพันธ์ อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร ซึ่งรับเป็นเจ้าของบ้าน เผยว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของสามีชาวต่างชาติซึ่งทำธุรกิจโรงแรมที่พักในเมืองพัทยา ทำให้มีเพื่อนๆ พากันมาปาร์ตี้ที่บ้านอยู่บ่อยครั้ง ส่วนสุราที่พบภายในบ้านนั้นซื้อมาจากจุดปลอดภาษีตามสนามบินต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงควบคุมตัวไปสอบสวนอีกครั้งก่อนดำเนินคดี พร้อมยึดรถยนต์ยี่ห้อแอสตัน มาร์ตินไว้ตรวจสอบ เนื่องจากไม่มีหลักฐานมาแสดง
ข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากทำการตรวจสอบสุรา และยาสูบทั้งหมดพบว่า มีสุรา และยาสูบเลี่ยงภาษีจำนวนมาก ซึ่งจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่สรรพสามิตทราบว่า โทษของคดีความผิดดังกล่าวมีอัตราโทษปรับเป็น จำนวน 2 เท่าของค่าภาษี ซึ่งการบุกทลายปาร์ตี้ครั้งนี้คิดความเสียหายค่าความเสียด้านสรรพสามิตรวมไม่ต่ำกว่า 1.2 ล้านบาท
