กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) บุกจู่โจมลุยเข้าตรวจค้น 9 จุด บริษัทนำเข้ารถหรู โชว์รูมห้างดังกลางเมือง เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา อายัดรถหรูยี่ห้อดัง เช่น ลัมโบร์กีนี แมคลาเรน ปอร์เช่ จำนวน 122 คัน และถัดมาในวันที่ 24 พ ค ดีเอสไอก็ตะลุยบุกยึดรถตั้งแต่ตลาดหลักสี่บางเขนจนถึงสยามพารากอน ยึดรถ 38 คัน ปฏิบัติการบุกโชว์รูมรถสองวันยึดรถไว้จำนวน 160 คันพร้อมเอกสารนำเข้ารถอีกหลายยี่ห้อ
***เรื่องนี้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการธุรกิจนำเข้ารถอิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ตรุนแรงที่สุด*** เพราะนอกจากจะกระทบต่อธุรกิจที่การซื้อขายรถจะสะดุดแล้ว ยังเป็นการกระชากหน้ากากคนทำธุรกิจนำเข้ารถราคาแพงครั้งสำคัญ ที่เบื้องหน้าสังคมเข้าใจว่าเป็นพวกไฮโซ มีธุรกิจการค้าสุจริต ทำกำไรมากมีเงินมหาศาล แต่ต่อไปเบื้องหลังจะถูกแฉออกมาให้เห็นอีกด้านหนึ่ง ว่าเป็นอย่างไร
เพราะคราวนี้ดีเอสไอมีข้อมูลแน่น ระบุมีการทำผิดกฎหมายหลายข้อหา แต่เรื่องหลักจะแจ้งข้อหาหนักคือ
การนำรถยนต์เข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงภาษีอากร และสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งเป็นการกระทำผิดที่เรียกได้ว่า เป็นอาชญากรทางด้านเศรษฐกิจขั้นร้ายแรงและมีโทษหนักทั้งจำและปรับ
*** ดังนั้นไฮโซในวันนี้อาจจะกลายเป็นโจโรในวันหน้าเพราะต้องหนีความผิดโกงภาษีแผ่นดิน และผิดอาญาอีกหลายกระทง***
ต้องย้อนไปที่จุดค้น 9 จุดแรก ที่ดีเอสไอเข้าค้นคือแหล่งรวมรถหรูที่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นบริษัทนำเข้ารถยนต์หรู ของนักค้ารถระดับรุ่นใหญ่ลายครามของประเทศไทย ทั้งหมด9 แห่งเป็นบริษัทในเครือข่าย***บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด*** มีกองบัญชาการใหญ่ตั้งอยู่ ริมถนนมอเตอร์เวย์ เป็นอาคารโชว์รูมใหญ่โตหรูหรามาก โดดเด่นสะดุดตาแก่คนที่ผ่านไปมา
โดยอดีตของนิช คาร์ เดิมชื่อบริษัทเบนซ์นครินทร์ ออโต้ จำกัด ซึ่งมีชื่อเสียงคุ้นเคยกันดีในหมู่ผู้นิยมรถราคาแพง เบนซ์นครินทร์นอกจากจะขายรถเบนซ์ ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายรถหรูซุปเปอร์คาร์จากอังกฤษ อย่างยี่ห้อ โลตัส แต่ต่อมามีปัญหาทางการค้าก็เลยถูกยกเลิกสิทธิ์ตรงนี้ไป
เบนซ์นครินทร์หรือ นิช คาร์ในวันนี้ มีเจ้าของตัวจริงคือ *** นายเสรี รักษ์วิทย์ *** แต่ปัจจุบันเปลี่ยนนามสกุลเป็น ชินบารมี โดยตอนนี้นายเสรีส่งมอบธุรกิจให้นายวิทวัสลูกชายเป็นคนขับเคลื่อนธุรกิจค้ารถซุปเปอร์ที่มีมูลค่าหมื่นล้านบาทแทน ตัวเองนั่งเป็นประธานบริษัทคอยสั่งการ ซึ่งระยะหลังนิช คาร์ กรุ๊ปสามารถกินส่วนแบ่งการตลาดรถหรูไปเกินกว่าครึ่ง นับว่าเป็นอาณาจักรค้ารถซุปเปอร์คาร์ใหญที่สุดของเมืองไทย
***ส่วนการตรวจค้นครั้งที่สอง เป็นการเข้าค้นโชว์รูมรถของบริษัท เอส ที ที ออโต้ คาร์ *** ซึ่งพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ได้เปิดเผยถึงเบื้องหน้า เบื้องหลังว่าการตรวจค้นและอายัดรถหรูของบริษัท เอสทีที ออโต้คาร์ ย่านรัชดาภิเษก และย่านสุขุมวิทไว้ตรวจสอบส่วนหนึ่งนั้น
เนื่องจากพบว่าโชว์รูมทั้ง 2 แห่งของบริษัท มีรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษจอดขายอยู่ โดยบริษัทดังกล่าว มี ***นายภาณุศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือบอย ยูนิตี้ ไฮโซชื่อดัง*** เป็นเจ้าของบริษัทฯ
สำหรับภาณุศักดิ์ หรือรู้จักกันในนาม บอย ยูนิตี้ ไฮโซชื่อดัง ยังเป็นเจ้าของบริษัท ยูนิตี้คาร์ที่มีโชว์รูมอยู่ถนนรัชดาฯ เคยเป็นข่าวคราวสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนางเอกเจนี่ กับไฮโซผิงมาเมื่อหลายปีก่อน
บอยคลุกคลีวงการขายร้านมาตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่ม เข้ามาวงการโดยเริ่มเป็นเซลขายรถให้กับบริษัทเอสอีซี ของเสี่ยสมพงษ์ ยักษ์ใหญ่ของวงการค้ารถหรูในช่วง 20 ปีที่แล้ว
หลังจากเสี่ยสมพงษ์เจอมรสุมด้านการเงินเผ่นหนีไป บอยซึ่งตอนหลังมาได้รับความไว้วางใจให้เป็นคนจัดหารถจากต่างประเทศทั้งญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกาเข้ามา เลยกระโดดขึ้นมาเป็นเถ้าแก่เสียเอง ตั้งบริษัท ยูนิตี้ คาร์ขึ้นสวมทันที
ธุรกิจของยูนิตี้ คาร์ไปได้ดี เติบโตเร็ว จนส่งให้บอยเป็นดาวรุ่งในวงการค้ารถไปในเวลาไม่กี่ปี และกลายเป็นขาใหญ่ขณะที่อายุยังไม่ถึง30ปี เขาหารถเก่งลูกค้าอยากได้ยี่ห้อไหนรุ่นอะไรสั่งได้ขอให้เงินถึง เก่งในการขายยังไม่พอ บอยยังเป็นคนที่มีลูกเล่นแพรวพราว
บอยสามารถพลิกแพลงหาวิธีนำเข้ารถเข้ามาขายในต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่งมาก เพราะใจถึงมีวิชาแพะเยอะเลยเสียภาษีรถน้อยกว่าเป็นจริง. ทุนนำเข้ารถต่อคันก็เลยต่ำกว่าเจ้าอื่น จึงมีลูกค้ามาใช้บริการอุ่นหนาฝาคั่ง
วงการค้ารถหรูในไทย เบื้องหน้ามีความสมาร์ทมากแต่เบื้องหลังว่ากันว่าเป็นแหล่งชุมนุมมังกรซ่อนพยัคฆ์ที่มีการหักเหลี่ยมเฉือนคมกันทุกท่วงท่า เริ่มตั้งแต่การหลบซ่อนนำรถเข้ามาโดยไม่เสียภาษี เข้ามาสวมทะเบียนปลอม หรือการนำเข้าโดยแจ้งราคาต้นทุนรถต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อเลี่ยงภาษีที่จะต้องเสียในอัตรา328 เปอร์เซนต์สำหรับรถหรู
***การเลี่ยงภาษีนี้ทำกันมาตลอด แต่บางแห่งหนักข้อถึงขั้นเอารถขโมยจากประเทศอังกฤษเข้ามาอย่างท้าทายมือกฎหมาย ***
เบื้องหลังธุรกิจค้ารถหรูบางแห่งยังเป็นแหล่งฟอกเงินชั้นดีให้กับบรรดาคนที่ได้เงินมาโดยไม่ถูกกฎหมาย เช่นบิ๊กข้าราชการและนักการเมืองที่ทุจริตก็มักจะฝากเงินปล่อยกู้ไว้กับเจ้าของบริษัทรถหรู เพราะได้รถไปเป็นประกันแล้วยังได้ดอกเบี้ยงามอีกด้วย กระแสเงินจำนวนมากที่เข้ามาในวงการรถหรูอีกสายหนึ่งก็มาจากขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งเชื่อว่าเงินจากขายยาเสพติดถูกนำมาฟอกกับวงการค้ารถหรูนับหมื่นล้านบาท โดยทั้งปล่อยกู้และซื้อรถ ตลอดถึงเป็นนายทุนให้ลับๆ
***เงินจากการทุจริตและค้ายาเสพติดเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงพวกค้ารถหรูมาจนถึงวันนี้ หากเจ้าหน้าที่เอาจริงกับการปราบปรามการทำผิดกฎหมายในวงการค้ารถ บรรดาเสี่ยและไฮโซจะถูกกระชากหน้ากากและจะเข้าไปนอนคุกกันหลายคน***
***เรื่องนี้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการธุรกิจนำเข้ารถอิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ตรุนแรงที่สุด*** เพราะนอกจากจะกระทบต่อธุรกิจที่การซื้อขายรถจะสะดุดแล้ว ยังเป็นการกระชากหน้ากากคนทำธุรกิจนำเข้ารถราคาแพงครั้งสำคัญ ที่เบื้องหน้าสังคมเข้าใจว่าเป็นพวกไฮโซ มีธุรกิจการค้าสุจริต ทำกำไรมากมีเงินมหาศาล แต่ต่อไปเบื้องหลังจะถูกแฉออกมาให้เห็นอีกด้านหนึ่ง ว่าเป็นอย่างไร
เพราะคราวนี้ดีเอสไอมีข้อมูลแน่น ระบุมีการทำผิดกฎหมายหลายข้อหา แต่เรื่องหลักจะแจ้งข้อหาหนักคือ
การนำรถยนต์เข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงภาษีอากร และสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งเป็นการกระทำผิดที่เรียกได้ว่า เป็นอาชญากรทางด้านเศรษฐกิจขั้นร้ายแรงและมีโทษหนักทั้งจำและปรับ
*** ดังนั้นไฮโซในวันนี้อาจจะกลายเป็นโจโรในวันหน้าเพราะต้องหนีความผิดโกงภาษีแผ่นดิน และผิดอาญาอีกหลายกระทง***
ต้องย้อนไปที่จุดค้น 9 จุดแรก ที่ดีเอสไอเข้าค้นคือแหล่งรวมรถหรูที่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นบริษัทนำเข้ารถยนต์หรู ของนักค้ารถระดับรุ่นใหญ่ลายครามของประเทศไทย ทั้งหมด9 แห่งเป็นบริษัทในเครือข่าย***บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด*** มีกองบัญชาการใหญ่ตั้งอยู่ ริมถนนมอเตอร์เวย์ เป็นอาคารโชว์รูมใหญ่โตหรูหรามาก โดดเด่นสะดุดตาแก่คนที่ผ่านไปมา
โดยอดีตของนิช คาร์ เดิมชื่อบริษัทเบนซ์นครินทร์ ออโต้ จำกัด ซึ่งมีชื่อเสียงคุ้นเคยกันดีในหมู่ผู้นิยมรถราคาแพง เบนซ์นครินทร์นอกจากจะขายรถเบนซ์ ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายรถหรูซุปเปอร์คาร์จากอังกฤษ อย่างยี่ห้อ โลตัส แต่ต่อมามีปัญหาทางการค้าก็เลยถูกยกเลิกสิทธิ์ตรงนี้ไป
เบนซ์นครินทร์หรือ นิช คาร์ในวันนี้ มีเจ้าของตัวจริงคือ *** นายเสรี รักษ์วิทย์ *** แต่ปัจจุบันเปลี่ยนนามสกุลเป็น ชินบารมี โดยตอนนี้นายเสรีส่งมอบธุรกิจให้นายวิทวัสลูกชายเป็นคนขับเคลื่อนธุรกิจค้ารถซุปเปอร์ที่มีมูลค่าหมื่นล้านบาทแทน ตัวเองนั่งเป็นประธานบริษัทคอยสั่งการ ซึ่งระยะหลังนิช คาร์ กรุ๊ปสามารถกินส่วนแบ่งการตลาดรถหรูไปเกินกว่าครึ่ง นับว่าเป็นอาณาจักรค้ารถซุปเปอร์คาร์ใหญที่สุดของเมืองไทย
***ส่วนการตรวจค้นครั้งที่สอง เป็นการเข้าค้นโชว์รูมรถของบริษัท เอส ที ที ออโต้ คาร์ *** ซึ่งพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ได้เปิดเผยถึงเบื้องหน้า เบื้องหลังว่าการตรวจค้นและอายัดรถหรูของบริษัท เอสทีที ออโต้คาร์ ย่านรัชดาภิเษก และย่านสุขุมวิทไว้ตรวจสอบส่วนหนึ่งนั้น
เนื่องจากพบว่าโชว์รูมทั้ง 2 แห่งของบริษัท มีรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษจอดขายอยู่ โดยบริษัทดังกล่าว มี ***นายภาณุศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือบอย ยูนิตี้ ไฮโซชื่อดัง*** เป็นเจ้าของบริษัทฯ
สำหรับภาณุศักดิ์ หรือรู้จักกันในนาม บอย ยูนิตี้ ไฮโซชื่อดัง ยังเป็นเจ้าของบริษัท ยูนิตี้คาร์ที่มีโชว์รูมอยู่ถนนรัชดาฯ เคยเป็นข่าวคราวสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนางเอกเจนี่ กับไฮโซผิงมาเมื่อหลายปีก่อน
บอยคลุกคลีวงการขายร้านมาตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่ม เข้ามาวงการโดยเริ่มเป็นเซลขายรถให้กับบริษัทเอสอีซี ของเสี่ยสมพงษ์ ยักษ์ใหญ่ของวงการค้ารถหรูในช่วง 20 ปีที่แล้ว
หลังจากเสี่ยสมพงษ์เจอมรสุมด้านการเงินเผ่นหนีไป บอยซึ่งตอนหลังมาได้รับความไว้วางใจให้เป็นคนจัดหารถจากต่างประเทศทั้งญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกาเข้ามา เลยกระโดดขึ้นมาเป็นเถ้าแก่เสียเอง ตั้งบริษัท ยูนิตี้ คาร์ขึ้นสวมทันที
ธุรกิจของยูนิตี้ คาร์ไปได้ดี เติบโตเร็ว จนส่งให้บอยเป็นดาวรุ่งในวงการค้ารถไปในเวลาไม่กี่ปี และกลายเป็นขาใหญ่ขณะที่อายุยังไม่ถึง30ปี เขาหารถเก่งลูกค้าอยากได้ยี่ห้อไหนรุ่นอะไรสั่งได้ขอให้เงินถึง เก่งในการขายยังไม่พอ บอยยังเป็นคนที่มีลูกเล่นแพรวพราว
บอยสามารถพลิกแพลงหาวิธีนำเข้ารถเข้ามาขายในต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่งมาก เพราะใจถึงมีวิชาแพะเยอะเลยเสียภาษีรถน้อยกว่าเป็นจริง. ทุนนำเข้ารถต่อคันก็เลยต่ำกว่าเจ้าอื่น จึงมีลูกค้ามาใช้บริการอุ่นหนาฝาคั่ง
วงการค้ารถหรูในไทย เบื้องหน้ามีความสมาร์ทมากแต่เบื้องหลังว่ากันว่าเป็นแหล่งชุมนุมมังกรซ่อนพยัคฆ์ที่มีการหักเหลี่ยมเฉือนคมกันทุกท่วงท่า เริ่มตั้งแต่การหลบซ่อนนำรถเข้ามาโดยไม่เสียภาษี เข้ามาสวมทะเบียนปลอม หรือการนำเข้าโดยแจ้งราคาต้นทุนรถต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อเลี่ยงภาษีที่จะต้องเสียในอัตรา328 เปอร์เซนต์สำหรับรถหรู
***การเลี่ยงภาษีนี้ทำกันมาตลอด แต่บางแห่งหนักข้อถึงขั้นเอารถขโมยจากประเทศอังกฤษเข้ามาอย่างท้าทายมือกฎหมาย ***
เบื้องหลังธุรกิจค้ารถหรูบางแห่งยังเป็นแหล่งฟอกเงินชั้นดีให้กับบรรดาคนที่ได้เงินมาโดยไม่ถูกกฎหมาย เช่นบิ๊กข้าราชการและนักการเมืองที่ทุจริตก็มักจะฝากเงินปล่อยกู้ไว้กับเจ้าของบริษัทรถหรู เพราะได้รถไปเป็นประกันแล้วยังได้ดอกเบี้ยงามอีกด้วย กระแสเงินจำนวนมากที่เข้ามาในวงการรถหรูอีกสายหนึ่งก็มาจากขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งเชื่อว่าเงินจากขายยาเสพติดถูกนำมาฟอกกับวงการค้ารถหรูนับหมื่นล้านบาท โดยทั้งปล่อยกู้และซื้อรถ ตลอดถึงเป็นนายทุนให้ลับๆ
***เงินจากการทุจริตและค้ายาเสพติดเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงพวกค้ารถหรูมาจนถึงวันนี้ หากเจ้าหน้าที่เอาจริงกับการปราบปรามการทำผิดกฎหมายในวงการค้ารถ บรรดาเสี่ยและไฮโซจะถูกกระชากหน้ากากและจะเข้าไปนอนคุกกันหลายคน***