เชียงราย - กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมผู้นำ อปท.รวมตัวขึ้นศาลากลางจังหวัดฯ โวยโดนหักคองบตำบลละ 5 ล้าน ทำลานตากผลผลิตทางการเกษตร เหลือเงินให้แค่ล้านเดียว แถมไม่ผ่านประชาคม ไม่เคยได้รับแจ้ง
วันนี้ (25 ก.ย.) นายอินเป๊ก อบอุ่น กำนัน ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย พร้อมผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจาก 27 หมู่บ้าน รวมประมาณ 150 คน ได้เดินทางไปชุมนุมกันที่ศาลากางจังหวัดเชียงราย เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เพื่อขอทราบเหตุผล และขอให้ทางภาครัฐแก้ไขปัญหาการจัดสรรงบประมาณตามโครงการมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล หรือโครงการตำบลละ 5 ล้านบาท
ในหนังสือที่ยื่นระบุว่า จากกรณีคณะรัฐมนตรีมีมติวันที่ 1 ก.ย.และ 8 ก.ย.58 เห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งจะจัดสรรงบประมาณให้ทุกตำบลๆ ละ 5 ล้านบาท แต่ปรากฏว่า ทางฝ่ายปกครอง อ.แม่สรวย ได้แจ้งว่า จะนำงบประมาณ จำนวน 4 ล้านบาท ไปสร้างลานตากผลผลิตทางการเกษตร ภายในสำนักงานสหกรณ์การเกษตรแม่สรวย จำกัด ทำให้ ต.ท่าก๊อ เหลืองบประมาณเพียง 1 ล้านบาท ทั้งที่เป็นโครงการที่ไม่ผ่านการทำประชาคม และไม่เคยได้รับแจ้งมาก่อน
นายอินเป๊ก กล่าวว่า ต.ท่าก๊อ มีจำนวน 27 หมู่บ้าน ประชากรกว่า 6,129 ครัวเรือน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ลำไย ข้าวโพด ข้าว ฯลฯ และตามพื้นที่สูงมีการปลูกชา กาแฟ ฯลฯ แต่กลับใช้งบประมาณเพื่อนำไปสร้างลานตากผลผลิตทางการเกษตร ทั้งที่ประชากรส่วนใหญ่ปลูกพืชที่ไม่จำเป็นต้องใช้ลานตาก แม้แต่กลุ่มที่จะใช้ก็อยู่บนพื้นที่สูง หากต้องลานตากก็ต้องขนกันไกลกว่า 20-30 กิโลเมตร ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในภาพรวม
ขณะที่คนที่เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรแม่สรวย จำกัด มีอยู่เพียง 630 ครัวเรือน หรือคิดเป็นร้อยละ 10.28 ของคนทั้งตำบล ดังนั้น การนำงบประมาณกว่า 4 ล้านบาท ไปใช้ทำลานตากผลผลิตเพียงจุดเดียวจึงไม่ใช่โครงการตามความต้องการของประชาชนในภาพรวมของตำบล
“ในตำบลมีโรงตากผลผลิตทางการเกษตรกว่า 5 แห่ง แต่จัดงบให้สหกรณ์การเกษตรแม่สรวย จำกัด แห่งเดียว ทั้งๆ ที่เป็นแค่สาขาหนึ่งของทั้งตำบลเท่านั้น จึงขอให้พิจารณาแก้ไขในเรื่องนี้ด้วย” นายอินเป๊ก กล่าว
ต่อมา นายประจญ ปรัชญ์สกุล รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายนักปราชญ์ ไชยานนท์ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์การพัฒนา จ.เชียงราย ได้เข้ารับเรื่องจากผู้ชุมนุม พร้อมชี้แจงว่า โครงการดังกล่าวเกิดจากโครงการตำบลละ 5 ล้านนั้น รัฐบาลให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตั้งแต่เดือน ก.พ.-มี.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งในงบ 5 ล้านบาทนี้มีที่มาจากหลายส่วน คือ งบประมาณสำหรับกองทุนหมู่บ้าน งบประมาณตามมาตรการกระตุนเศรษฐกิจเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและแก้ไขความยากจน จำนวน 6,500 ล้านบาท และงบประมาณตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล จำนวน 37,000 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณกลางของรัฐบาล ซึ่งหากตำบลใดใช้งบประมาณจากงบส่วนไหนไปแล้วที่เหลือก็ให้หักไปตามสัดส่วน
นายนักปราชญ์ กล่าวว่า กรณี จ.เชียงราย มีการนำเสนอโครงการต่างๆ เพื่อขอรับงบประมาณจำนวน 204 โครงการ ปัจจุบันได้รับการพิจารณามาแล้ว จำนวน 91.9 ล้านบาท ซึ่งกรณีโครงการลานตากผลผลิตทางการเกษตรที่ ต.ท่าก๊อ อยู่ในงบประมาณที่ได้รับตั้งแต่ก้อนแรก 91.9 ล้านบาทนี้แล้ว แต่เนื่องจากการพิจารณาต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการระดับอำเภอ และจังหวัด และยังไม่ได้จัดสรรงบประมาณลงไปให้จึงสามารถยื่นผ่านคณะกรรมการเพื่อให้แก้ไขการใช้งบประมาณได้
ดังนั้น ตำบลฯ สามารถนำเสนอไปยังคณะกรรมการเพื่อขอให้แกไข้ให้เป็นไปตามความต้องการตำบลต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม กลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เดินทางมาชุมนุมกันยังคงมีความกังวลว่า สหกรณ์ฯ จะไม่ยอม รวมทั้งสงสัยในประเด็นการอนุมัติโครงการว่า ไม่มีการทำประชาคมเหมือนกรณีงบประมาณ 1 ล้านบาทแรกเลย
จังหวัดฯ จึงประสานงานไปผู้บริหารสหกรณ์การเกษตรแม่สรวย จำกัด พร้อมแจ้งต่อผู้ชุมนุมในเบื้องต้นว่า หากเป็นความต้องการของประชาชนทางสหกรณ์ฯพร้อมจะถอนตัว จึงทำให้หลายฝ่ายเบาใจ
ส่วนกรณีการทำประชาคมนั้นทางจังหวัดฯ ชี้แจงว่า บางมาตรการใช้การพิจารณาเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรที่มีศักยภาพ และมีความพร้อม จึงไม่จำเป็นต้องทำประชาคม และงบประมาณนี้เป็นเพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วง 3 เดือน และจังหวัดยังจะได้รับงบประมาณตามโครงการนี้อีก 621 ล้านบาทด้วย
หลังการชี้แจงทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมพอใจ แต่ก็พากันไปยื่นหนังสือต่อกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกเชียงราย (กกล.รส.จทบ.ชร.) ก่อนกลับไปเสนอโครงการต่อทางอำเภอต่อไป