พบมีดหินและซากเมืองโบราณจมอยู่ในหนองน้ำที่อุบลฯ

อุบลราชธานี - พบซากเทวสถานและมีดดาบโบราณจมอยู่ในหนองน้ำ วัดบ้านขุมคำ เขตอำเภอกุดข้าวปุ้น อุบลราชธานี คาดมีอายุนับพันปี เบื้องต้นสำนักศิลปากรที่ 11 อุบลราชธานี กันพื้นที่ไว้ศึกษาประวัติความเป็นมาแล้ว

วันนี้ (17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากพระบุญศรี อนุตตโร พระลูกวัดบ้านขุมคำ ต.แก้งเค็ง อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี ว่า เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาวัดประสบปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำใช้ จึงว่าจ้างให้รถแบ็กโฮมาขุดลอกหนองน้ำเก่าที่ตื้นเขิน เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้

เมื่อรถแบ็กโฮขุดลึกลงไปประมาณ 3 เมตรก็พบกับซากคล้ายกำแพงโบราณที่ทำจากหินทราย และมีดทำจากหินโบราณยาว 50 เซนติเมตร โดยมีคราบหินเกาะจำนวน 1 เล่มจึงนำขึ้นมาเก็บไว้ที่กุฏิ ส่วนซากกำแพงหินทรายได้นำมากองไว้ที่ข้างสระน้ำตรงจุดที่ขุดพบ

ต่อมา นางจิตรปรีดี พร้อมศรีทอง ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 11 จ.อุบลราชธานี ทราบเรื่องได้สั่งให้ น.ส.สิริพัฒน์ บุญใหญ่ นักโบราณคดีชำนาญการ นำทีมเข้าตรวจสอบโบราณวัตถุที่พบในวัด พร้อมระบุว่า มีดโบราณที่พบคล้ายดาบทำจากหินถือเป็นเรื่องแปลก เพราะที่ผ่านมายังไม่พบการนำหินมาทำเป็นอาวุธมาก่อน จึงจะนำมาศึกษาว่าพบมีดที่ทำจากหินลักษณะนี้ในประเทศไทยหรือประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ ส่วนอายุยังระบุไม่ได้ชัดเจน

สำหรับกายภาพบริเวณวัดขุมคำ พื้นที่ทั้งหมดเป็นลานหินทรายธรรมชาติ ส่วนที่เข้าใจว่าเป็นกำแพงเมืองเก่านั้นความจริงแล้วไม่ใช่กำแพง แต่เป็นลานหินทรายที่มนุษย์เข้ามาทำกิจกรรม มีการตัดเอาหินทรายมาใช้งาน มีร่องรอยการใช้เครื่องมือตัดออกมาเป็นท่อนๆ

นอกจากนี้ ยังพบศิวลึงค์ และโยนี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระแม่อุมา และพระศิวะในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เบื้องต้นได้ขอให้ทางวัดขุมคำและชุมชนปิดพื้นที่ส่วนที่เป็นลานหินไม่ให้รถแล่นผ่านเพราะจะทำความเสียหายให้แก่ลานหิน เพื่อเข้าทำการศึกษาความเป็นมาของแหล่งโบราณวัตถุในบริเวณนี้ ซึ่งคาดมีอายุนับพันปี