ผู้ว่าฯ อ่างทองเปิดธนาคารต้นไม้ชุมชนบางเสด็จ

อ่างทอง - ผู้ว่าฯ อ่างทอง เป็นประธานเปิดโครงการธนาคารต้นไม้ชุมชนบางเสด็จ ที่บริเวณวัดท่าสุทธาวาส เพื่อให้ประชาชนปลูกต้นไม้ตามแนวทางพระราชดำริ ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ในที่ดินของตนเอง และชุมชน

วันนี้ (16 ก.ย.) นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานเปิดโครงการธนาคารต้นไม้ชุมชนบางเสด็จ ที่บริเวณวัดท่าสุทธาวาส ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง โดยมี นายประจิน จันทรพานิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และประชาชนตำบลบางเสด็จ

โดยโครงการธนาคารต้นไม้เป็นโครงการที่ทาง ธ.ก.ส.ให้การสนับสนุนมาแล้วเป็นเวลามากกว่า 9 ปี เพื่อให้ประชาชนปลูกต้นไม้ตามแนวทางพระราชดำริ ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ในที่ดินของตนเอง และชุมชน สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรชุมชนร่วมกัน สามารถพึ่งพาตนเองได้ในระดับครอบครัว และเชื่อมโยงเครือข่ายระดับ ชุมชนจนถึงระดับประเทศ ซึ่งจะร่วมสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย ด้านพลังงาน ด้านอาหาร ยารักษาโรค และระบบนิเวศ เป็นการป้องกัน และแก้ปัญหาวิกฤติของประเทศ และของโลก

นายประจิน จันทรพานิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้ให้การสนับสนุนให้มีการดำเนินงานโครงการธนาคารต้นไม้ จำนวน 6,800 ชุมชน มีเป้าหมายเพิ่มต้นไม้ปีละ 2,000,000 ต้น โดยได้ส่งเสริมให้มีกิจกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร ลูกค้า และประชาชน โดยการสนับสนุนสร้างเสริมองค์ความรู้ที่จะเป็นแนวทางเพิ่มพูลความรู้ และทักษะในการดำเนินโครงการธนาคารต้นไม้

ได้แก่ การจัดทำทะเบียนต้นไม้ การจัดทำพิกัด GPS การจดบันทึกขนาดของต้นไม้ และวิธีการใช้ประโยชน์จากต้นไม้ เช่น การผลิตถ่านคุณภาพดี การจัดการน้ำส้มควันไม้ ให้แก่คณะกรรมการธนาคารต้นไม้ พนักงานของธนาคาร และผู้ที่สนใจโดยการจัดอบรมให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งทาง ธ.ก.ส.ได้ออกผลิตภัณฑ์เพื่อสนับสนุนโครงการธนาคารต้นไม้ โดยให้อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 1.55 ต่อปีแก่ผู้ฝาก และสนับสนุนเงินอีกร้อยละ 0.25 ต่อปี แก่ธนาคารต้นไม้ตามที่ผู้ฝากจ้างความประสงค์ และในการจัดโครงการในครั้งนี้ได้จัดให้มีการอบรมสมาชิกธนาคารต้นไม้ จำนวนทั้งสิ้น 132 คน ใช้ระยะเวลาอมรม 3 วัน เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของธนาคารต้นไม้ และนำไปต่อยอดสู่ชุมชน ตำบล และสังคมต่อไป