นครพนม - คนแก่นครพนมเฮ! ยิ้มออก รอนัดรับจ่ายเงินเบี้ยยังชีพ 3.6 ล้านภายใน 3 วัน หลังนัดชุมนุมทวงถามไม่ได้รับนานกว่า 4 เดือน
กรณีผู้สูงอายุกว่า 200 คนใน ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ฮือชุมนุมที่วัดทวงถามเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและผู้พิการ 20 หมู่บ้าน กว่า 1,500 คน ของเทศบาล ต.น้ำก่ำ ที่ยังไม่ได้รับนาน 3-4 เดือน ส่งผลการดำรงชีพอดมื้อกินมื้อ หลังร้องศูนย์ดำรงธรรม และ ป.ป.ช.เรื่องเงียบ ส่วนนายก ต.น้ำก่ำ แจงได้รับจัดสรรจากส่วนกลางไม่พอ จนใช้เงินสะสมไปหมดแล้ว ขณะที่อธิบดี สถ.ระบุยันโอนเงิน 11.8 ล้านเข้าบัญชีแล้วแต่ต้นปี ด้าน รมว.พม.สั่ง พมจ.นครพนม สั่งสอบข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (15 ก.ย.) นายอติชาติ อุณหเลขกะ นายอำเภอธาตุพนม กล่าวว่า กรณีผู้สูงอายุผู้พิการ รวมตัวกันร้องเรียน ทราบว่าตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย.ยังไม่ได้รับเบี้ยยังชีพ เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าทางกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ได้โอนเงินมาให้เทศบาลฯเรียบร้อยแล้ว แต่เทศบาลฯ แห่งนี้ยังไม่จ่ายให้ผู้สูงอายุ จึงสอบถาม ผอ.กองสวัสดิการ รวมทั้งนายก ทราบว่าเนื่องจากยอดจำนวนผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นมา ยอดผู้สูงเพิ่มจาก 1,270 คน เพิ่มเป็น 1,400 คน
นายอำเภอธาตุพนมกล่าวต่อว่า ส่วนต่างทำให้ยอดเงินที่ได้รับจัดสรรมาไม่เพียงพอ เทศบาลฯ จึงชะลอการจ่ายไว้ เมื่อตนทราบเรื่องหลังได้รับงบมาครบทั้ง 3 เดือนแล้ว จึงให้เทศบาลแก้ไขปัญหาโดยจ่ายผู้สูงอายุในเดือน ก.ค.-ส.ค.ให้ครบถ้วน ส่วนเดือน ก.ย.ซึ่งจะต้องมีงบมาเพิ่มถึงจะจ่ายได้นั้น ให้เทศบาลฯขออนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมขอใช้เงินสะสมจ่ายไปก่อน หลังได้รับงบจาก สถ.มาแล้วค่อยให้นำเงินมาคืนภายหลัง
“เงินที่จะต้องจ่ายให้ผู้สูงอายุ 3 เดือนเป็นเงิน 2.7 ล้านบาท คงเหลือค้างที่จะจ่ายอีก 9 แสนบาทเศษ รวมยอดเงิน 3.6 ล้านบาท ตนกำชับว่าภายใน 18 ก.ย. ผู้สูงอายุในตำบลนี้จะต้องได้รับเงินครบถ้วนทุกราย หากไม่จ่ายก็สงสารคนแก่ที่ลูกหลานไม่ดูแลก็จะเดือดร้อนหนัก ทาง ผวจ.นครพนมได้อนุมัติให้ยืมเงินสะสม 8.6 แสนบาท หากไม่พอให้ยืมเงินทุนสำรอง 25 เปอร์เซ็นต์มาจ่ายอีก
นายอำเภอธาตุพนมกล่าวอีกว่า ทางท้องถิ่นจังหวัดกำลังลงพื้นที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ทางเทศบาล ต.น้ำก่ำ ชี้แจงว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ หากเกิดจากความบกพร่องอาจดำเนินการลงโทษทางวินัยต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผวจ.นครพนม ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตนอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่กรุงเทพฯ และไม่มีข้อมูล เบื้องต้นได้มอบหมายให้นายอำเภอธาตุพนมดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว
หลังผู้เฒ่าผู้แก่ในพื้นที่ทราบข่าวต่างรวมตัวกันแสดงความดีใจ พร้อมชูป้ายแสดงความขอบคุณ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนัดจ่ายเงินให้ในวันที่ 18 ก.ย.นี้
ด้านคุณตาสมนึก สายบุญทอง วัย 76 ปี ชาวบ้านโนนสังข์ ต.น้ำก่ำ กล่าวตื้นตันใจว่า ดีใจหลังพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย ตนพิการหลังค่อม ส่วนภรรยาอายุ 74 ปี แขนพิการอยู่กับลูกเลี้ยง คาดว่าจะได้เงินผู้สูงอายุ 2,100 บาทในวันที่ 18 ก.ย.นี้ก็จะนำไปจ่ายร้านค้า 3 แห่ง หลังไปเครดิตกาแฟ ปลาทู พืชผัก เป็นเงิน 1,000 บาท
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุอาจเกิดจากผู้บริหารเป็นเจ้าพ่อเรือแข่งอาจนำเงินไปใช้หมุนจ่ายในการแข่งเรือในสนามทุกพื้นที่ในภาคอีสานหาเงินมาคืนคนแก่ไมทัน งบพัฒนาในพื้นที่ 68 ล้าน บริหารเองไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนพูดได้สักคน เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่สามารถทำอะไรและตรวจสอบก็ไม่ได้ อีกทั้งงบโรงเรียน 8 แห่งที่รับผิดชอบ เงินอาหารกลางวันเด็กกว่า 1 คนที่กระทรวงศึกษาฯ โอนให้ก็ยังค้างจ่ายอีกกว่า 1 ล้านบาท
กรณีผู้สูงอายุกว่า 200 คนใน ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ฮือชุมนุมที่วัดทวงถามเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและผู้พิการ 20 หมู่บ้าน กว่า 1,500 คน ของเทศบาล ต.น้ำก่ำ ที่ยังไม่ได้รับนาน 3-4 เดือน ส่งผลการดำรงชีพอดมื้อกินมื้อ หลังร้องศูนย์ดำรงธรรม และ ป.ป.ช.เรื่องเงียบ ส่วนนายก ต.น้ำก่ำ แจงได้รับจัดสรรจากส่วนกลางไม่พอ จนใช้เงินสะสมไปหมดแล้ว ขณะที่อธิบดี สถ.ระบุยันโอนเงิน 11.8 ล้านเข้าบัญชีแล้วแต่ต้นปี ด้าน รมว.พม.สั่ง พมจ.นครพนม สั่งสอบข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (15 ก.ย.) นายอติชาติ อุณหเลขกะ นายอำเภอธาตุพนม กล่าวว่า กรณีผู้สูงอายุผู้พิการ รวมตัวกันร้องเรียน ทราบว่าตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย.ยังไม่ได้รับเบี้ยยังชีพ เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าทางกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ได้โอนเงินมาให้เทศบาลฯเรียบร้อยแล้ว แต่เทศบาลฯ แห่งนี้ยังไม่จ่ายให้ผู้สูงอายุ จึงสอบถาม ผอ.กองสวัสดิการ รวมทั้งนายก ทราบว่าเนื่องจากยอดจำนวนผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นมา ยอดผู้สูงเพิ่มจาก 1,270 คน เพิ่มเป็น 1,400 คน
นายอำเภอธาตุพนมกล่าวต่อว่า ส่วนต่างทำให้ยอดเงินที่ได้รับจัดสรรมาไม่เพียงพอ เทศบาลฯ จึงชะลอการจ่ายไว้ เมื่อตนทราบเรื่องหลังได้รับงบมาครบทั้ง 3 เดือนแล้ว จึงให้เทศบาลแก้ไขปัญหาโดยจ่ายผู้สูงอายุในเดือน ก.ค.-ส.ค.ให้ครบถ้วน ส่วนเดือน ก.ย.ซึ่งจะต้องมีงบมาเพิ่มถึงจะจ่ายได้นั้น ให้เทศบาลฯขออนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมขอใช้เงินสะสมจ่ายไปก่อน หลังได้รับงบจาก สถ.มาแล้วค่อยให้นำเงินมาคืนภายหลัง
“เงินที่จะต้องจ่ายให้ผู้สูงอายุ 3 เดือนเป็นเงิน 2.7 ล้านบาท คงเหลือค้างที่จะจ่ายอีก 9 แสนบาทเศษ รวมยอดเงิน 3.6 ล้านบาท ตนกำชับว่าภายใน 18 ก.ย. ผู้สูงอายุในตำบลนี้จะต้องได้รับเงินครบถ้วนทุกราย หากไม่จ่ายก็สงสารคนแก่ที่ลูกหลานไม่ดูแลก็จะเดือดร้อนหนัก ทาง ผวจ.นครพนมได้อนุมัติให้ยืมเงินสะสม 8.6 แสนบาท หากไม่พอให้ยืมเงินทุนสำรอง 25 เปอร์เซ็นต์มาจ่ายอีก
นายอำเภอธาตุพนมกล่าวอีกว่า ทางท้องถิ่นจังหวัดกำลังลงพื้นที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ทางเทศบาล ต.น้ำก่ำ ชี้แจงว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ หากเกิดจากความบกพร่องอาจดำเนินการลงโทษทางวินัยต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผวจ.นครพนม ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตนอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่กรุงเทพฯ และไม่มีข้อมูล เบื้องต้นได้มอบหมายให้นายอำเภอธาตุพนมดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว
หลังผู้เฒ่าผู้แก่ในพื้นที่ทราบข่าวต่างรวมตัวกันแสดงความดีใจ พร้อมชูป้ายแสดงความขอบคุณ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนัดจ่ายเงินให้ในวันที่ 18 ก.ย.นี้
ด้านคุณตาสมนึก สายบุญทอง วัย 76 ปี ชาวบ้านโนนสังข์ ต.น้ำก่ำ กล่าวตื้นตันใจว่า ดีใจหลังพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย ตนพิการหลังค่อม ส่วนภรรยาอายุ 74 ปี แขนพิการอยู่กับลูกเลี้ยง คาดว่าจะได้เงินผู้สูงอายุ 2,100 บาทในวันที่ 18 ก.ย.นี้ก็จะนำไปจ่ายร้านค้า 3 แห่ง หลังไปเครดิตกาแฟ ปลาทู พืชผัก เป็นเงิน 1,000 บาท
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุอาจเกิดจากผู้บริหารเป็นเจ้าพ่อเรือแข่งอาจนำเงินไปใช้หมุนจ่ายในการแข่งเรือในสนามทุกพื้นที่ในภาคอีสานหาเงินมาคืนคนแก่ไมทัน งบพัฒนาในพื้นที่ 68 ล้าน บริหารเองไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนพูดได้สักคน เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่สามารถทำอะไรและตรวจสอบก็ไม่ได้ อีกทั้งงบโรงเรียน 8 แห่งที่รับผิดชอบ เงินอาหารกลางวันเด็กกว่า 1 คนที่กระทรวงศึกษาฯ โอนให้ก็ยังค้างจ่ายอีกกว่า 1 ล้านบาท