เปิดเอกสารแฉ การเคหะฯ ตั้งงบกว่า 800 ล้าน ผลาญงบ 57 อดีต รมว.พม.รู้เห็น หลังเจอ คสช.สั่งล้างท่อ เพื่อนำหัวคะแนนเที่ยวได้ถึง 200 เที่ยว พร้อมแถมเงินให้ด้วย เริ่มเสาร์ที่จะถึง มีหัก 15% ค่าบริหารโครงการ ส.ส.พท.รับลูกกล่อมอ้างนายใหญ่จัดให้ ข้องใจ คตร.ที่ คสช.ตั้งดูแลงบดันปล่อยผ่าน จับตาหลายกระทรวงผลาญงบทิ้งทวน
วันนี้ (14 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายเร่งรัดให้หน่วยราชการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ก่อนสิ้นปีงบประมาณทำให้มีการดันงบหาเสียงและเคลื่อนไหวทางการเมืองพาหัวคะแนนและผู้สนับสนุนเดินทางไปสัมมนาต่างจังหวัดจำนวนมาก โดยในส่วนของการเคหะแห่งชาติซึ่งอยู่ภายใต้กำกับของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่มีนางปวีณา หงสกุล เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกำกับดูแลอยู่ ได้ตั้งงบประมาณในส่วนนี้ไว้สูงถึงกว่า 834,336,200 บาท โดยระบุเป็นงบอุดหนุนในโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย อยู่ในหมวดของค่าใช้จ่ายในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งจากงบดังกล่าวจะสามารถทำให้พาหัวคะแนนและฐานเสียงไปสัมมนาต่างจังหวัดได้ถึง 200 เที่ยว โดยแต่ละครั้งสามารถนำประชาชนไปได้ 350 คน โดยจะมีการเดินทางครั้งแรกวันเสาร์ที่จะถึงนี้ (วันที่19 ก.ค. 57) โดยเริ่มในเขตพื้นที่ กทม.โซนตะวันออกก่อน
สำหรับโครงการนี้การเคหะฯจะมีการหัก 15% จากยอดงบประมาณทั้งหมดโดยอ้างว่าเป็นค่าบริหารโครงการ ก่อนจะนำส่วนเหลือมาดำเนินโครงการเพื่อสนองความต้องการของฝ่ายการเมือง โดยนอกจากจะเป็นการพาฐานเสียงไปเที่ยวแล้ว ยังมีการแจกเงินให้กับชาวบ้านครอบครัวละหนึ่งพันบาทด้วย และมีความเคลื่อนไหวจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทยใน กทม.ตามชุมชนต่างๆ โดยมีทั้งการอ้างว่าเป็นเงินส่วนที่ ส.ส.ผลักดันมาได้และเงินจากการสนับสนุนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งที่เงินดังกล่าวเป็นงบประมาณแผ่นดิน
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้า คสช.ได้กำกับให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดการพัฒนา และให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ หรือ คตร. ที่มีปลัดบัญชีทหารบกเป็นประธานตรวจสอบความคุ้มค่าของโครงการที่ใช้งบประมาณเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 10 โครงการ โดย คตร.มีมติยกเลิกไปแล้ว 2 โครงการ คือ งบจัดซื้อแท็บเล็ต และงบซ่อมหัวรถจักร แต่กลับโครงการนี้ที่นอกจากจะไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศแล้ว ยังเป็นเครื่องมือของนักการเมืองกลับไม่ถูกยกเลิก ทั้งที่ทำให้ประเทศต้องสูญเสียงบประมาณกว่า 800 ล้านบาท และยังจะต้องจับตาดูการใช้งบปี 57 ในช่วงสุดท้ายหรืองบล้างท่อของหน่วยงานตามกระทรวงต่างๆ อีกหลายกระทรวง ที่อาจจะส่อไปในการผลาญงบประมาณแผ่นดินเหมือนเช่นกรณีนี้ด้วย
