บุรีรัมย์ - ชาวบ้านทั้งในบุรีรัมย์ และต่างจังหวัดแตกตื่นแห่นำธูปเทียนไปกราบไหว้ขอโชคลาภ ทั้งนำภาชนะไปตักน้ำในบ่อดินที่ผุดขึ้นกลางสระของวัดหัวหนองแคนที่มีการขุดลอกใหม่นำไปดื่มและทาตามร่างกาย เชื่อเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เทพนาคาหรือปู่พญานาคปลุกเสกไว้ และโปรดทานให้มนุษย์นำไปรักษาอาการเจ็บป่วย
วันนี้ (14 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังมีข่าวลือพบบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในหนองน้ำ วัดหัวหนองแคน บ.หัวหนองแคน หมู่ 3 ต.สระบัว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ มีชาวบ้านทั้งใน จ.บุรีรัมย์ และจากต่างจังหวัด เช่น จ.นครราชสีมา ขอนแก่น และ จ.อุบลราชธานี ต่างพากันนำธูปเทียนมากราบไหว้บูชาขอโชคลาภ พร้อมทั้งนำภาชนะทั้งขวด แก้ว แกลลอน และถังน้ำ มาตักน้ำในบ่อดังกล่าวที่เชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำไปดื่มและทาตามร่างกายตามความเชื่อว่าจะสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้
เมื่อไปถึงภายในวัดหัวหนองแคน ด้านทิศเหนือวัดมีหนองน้ำขนาดใหญ่ เนื้อที่ 59 ไร่ พบชาวบ้านจำนวนหนึ่งอยู่ริมหนองน้ำที่ทำเป็นเพิงให้ร่มเงากันแดด กำลังจุดธูปเทียนไหว้ศาล และไม้ตะเคียน ก่อนพาผู้สื่อข่าวไปที่หนองน้ำแล้วเดินลงไปตามสะพานคอนกรีตที่มีความยาว 89 เมตร กว้าง 175 เซนติเมตร กระทั่งถึงกลางหนองน้ำ พบว่ามีบ่อน้ำขนาดเล็กที่ปูด้วยศิลาแลง ความลึก 3.50 เมตร ปากบ่อกว้าง 5 เมตรยาว 6 เมตร และมีทางเดินรอบบ่อน้ำขนาดกว้าง 21 เมตร ยาว 10 เมตร พร้อมกับมีกรวยและกระบวยตักน้ำแขวนและวางอยู่รอบบ่อน้ำ
ด้านทิศเหนือขอบบ่อ มีการทำแท่นปูนสูงประมาณ 50 เซนติเมตร พร้อมกับนำรูปปั้นพญานาคตัวใหญ่สูงประมาณ 70 เซนติเมตร และองค์เทพนาคาชาย หญิง มาวางตั้งไว้บนแท่นบูชา มีการนำมาลัยเจ็ดสี มาลัยสีเหลืองมาพันรอบตัวพญานาค เป็นการสักการบูชาแด่ปู่พญานาค จึงเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หรืออาจเป็นการแสดงปาฏิหาริย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลายคนนำดอกไม้ธูปเทียนไปกราบไหว้ และนำน้ำไปทำน้ำมนต์ดื่มรักษาโรคตามความเชื่อของชาวอีสาน
ทั้งนี้ ชาวบ้านยังเชื่อว่าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวเกิดจากการแสดงปาฏิหาริย์ของเทพนาคาหรือปู่พญานาคที่สถิตอยู่บริเวณสระน้ำดังกล่าวได้ปลุกเสกไว้ ชาวบ้านจึงพากันนำธูปเทียนมากราบไหว้ ทั้งนำภาชนะตักน้ำจากบ่อไปดื่มและทาให้หายจากอาการเจ็บป่วยตามความเชื่อและคำอธิษฐาน นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านหลายคนที่เคยมากราบไหว้และนำน้ำจากบ่อดังกล่าวไปดื่มกินแล้วหายจากอาการเจ็บป่วย หรือได้รับโชคลาภ ก็ได้นำรูปปั้นพญานาค ชุดไทย พร้อมทั้งบริจาคเงินเพื่อร่วมดูแลรักษาบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวด้วย
สำหรับน้ำในบ่อที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์มีลักษณะเป็นสีฟ้าคราม รสชาติจืด เหมือนกับน้ำในบ่อดิน ปัจจุบันได้มีการก่อสร้างปูนศิลาแลงล้อมรอบบ่อ ขณะที่น้ำในสระรอบบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวมีสภาพเหลืองขุ่น
ขณะที่ทาง อบต.สระบัวได้เข้าไปตรวจสอบบ่อน้ำดังกล่าว พร้อมทั้งได้สร้างความเข้าใจกับชาวบ้านว่าอย่าไปงมงายมากนัก แต่หากชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ถือว่าเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งเบื้องต้นก็ได้ประสานทางสาธารณสุขนำน้ำในบ่อดังกล่าวไปตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีสารอันตราย แต่หากจะนำไปดื่มกินก็ควรจะผ่านการฆ่าเชื้อหรือต้มให้สะอาดเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพร่างกาย
นายนิยม คำสมบัติ อายุ 53 ปี ชาวบ้านบ้านหนองหัวแคน บอกว่า หลังมีข่าวแพร่สะพัดเกี่ยวกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวได้มีชาวบ้านจากหลายจังหวัดเดินทางมากราบไหว้บูชาพร้อมนำภาชนะมาตักน้ำในบ่อที่เชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปดื่มกินและทาตามร่างกายกันอย่างไม่ขาดสาย บางคนที่นำน้ำไปดื่มแล้วมีอาการดีขึ้นหรือหายจากโรคภัยที่เป็นอยู่จะกลับมานำน้ำไปให้ญาติที่ป่วยกินด้วย แต่บางคนมองว่าเป็นเรื่องงมงายขึ้นอยู่กับความเชื่อความศรัทธาของแต่ละบุคคล
ด้าน นายทรงศักดิ์ อินทร์แป้น อายุ 51 ปี กรรมการหมู่บ้าน บอกว่า หลังจากที่ทาง อบต.ได้ทำการขุดลอกสระน้ำสาธารณะดังกล่าวที่มีสภาพตื้นเขินเพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำของหมู่บ้าน เมื่อเดือนธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2558 ผู้รับเหมาที่มาทำการขุดลอกสระก็สังเกตเห็นน้ำผุดขึ้นมาจากรูขนาดเท่าตัวปลาไหลและมีน้ำไหลออกมาตลอดเวลา และคนงานที่มาทำการขุดลอกเห็นว่าน้ำมีสภาพใสจึงได้ใช้ดื่มกินในช่วงที่มาขุดลอก กระทั่งวันหนึ่งได้มีคนมาเข้าฝันว่าน้ำดังกล่าวเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ปู่พญานาคปลุกเสกไว้ห้ามเด็กลงไปเล่นและห้ามกระทำสิ่งใดที่เป็นการลบหลู่
จากนั้นคนงานได้ลองนำน้ำจากสระไปให้ช้างที่มีอาการป่วยกิน พอวันรุ่งขึ้นปรากฏว่าช้างตัวดังกล่าวมีอาการดีขึ้นสามารถลุกยืนได้ จึงได้บอกต่อๆกันจนมีคนมาบูชาและนำไปดื่มจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งภายหลังจากกระแสข่าวบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แพร่สะพัดออกไปทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้าน และตำบล รวมทั้งอำเภอ จังหวัดใกล้เคียง ทราบข่าวต่างพากันมาสักการบูชา อธิษฐานขอน้ำศักดิ์สิทธิ์จากบ่อไปดื่มกิน เชื่อว่ารักษาโรคได้ และอาจมีโชคลาภตามความเชื่อของแต่ละคน