เชียงราย - รมว.พาณิชย์ ยกคณะจับชีพจรเศรษฐกิจเชียงราย เดินส่องทั้งราคาสินค้าตลาดสด ทุนค้าปลีกท้องถิ่นที่ยืนหยัดสู้ยักษ์ใหญ่ข้ามชาติได้ ตลาดกลางพืชผักผลไม้ ยันท่าเรือริมโขง ช่องทางเชื่อมถึงจีนตอนใต้ ขณะที่ภาคเอกชนชงขอโควตาส่งข้าวเข้าจีน ศูนย์กระจายสินค้า ก่อนถูกทุนจีนฮุบเบ็ดเสร็จ
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการกำกับดูแลค่าครองชีพในพื้นที่ จ.เชียงราย สุดสัปดาห์นี้ ทั้งที่ตลาดบ้านดู่ ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
ซึ่งท่าเรือเชียงแสน 2 เป็นสถานที่ขนถ่ายสินค้าระหว่างไทย พม่า สปป.ลาว และมณฑลยูนนาน จีนตอนใต้ ช่วงตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค.นี้ มีเรือเข้าเทียบท่าท่าเรือดังกล่าวแล้ว จำนวน 6,139 ลำ สินค้าผ่านท่าน้ำหนักรวม 288,161.56 ตัน ส่วนใหญ่เป็นเรือสินค้าสัญชาติ สปป.ลาว
ในโอกาสนี้ ตัวทนภาคเอกชนได้เสนอให้ประเทศไทยเจรจากับมณฑลยูนนานของจีน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการส่งออกข้าวไทยไปยังจีนตอนใต้ จากเดิมที่มีโควตาส่งออกเฉพาะเมืองท่าทางทะเลของจีนเท่านั้น
นางอภิรดี ได้แจ้งต่อภาคเอกชนว่า ที่ผ่านมา ได้มีการเจรจาหารือกับประเทศเพื่อนบ้านเรื่องการส่งออกสินค้าผ่านแดนจาก สปป.ลาว-คุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน เพื่อพัฒนาการขนส่งสินค้าระหว่างไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ และกรณีข้าวนั้นจะได้นำเข้าไปหารือในกรอบความร่วมมือดังกล่าวต่อไป
นอกจากนี้ ภาคเอกชนยังเสนอผ่านกระทรวงพาณิชย์ไปยังรัฐบาลให้เร่งรัดโครงการสร้างศูนย์กระจายสินค้าที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว อ.เชียงของ บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 ซึ่งเพิ่งเปิดใช้งานด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันของไทย ซึ่งทาง รมว.พาณิชย์ รับปากจะไปดูเรื่องนี้ให้ต่อไป
จากนั้นคณะได้เดินทางไปยังพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย เพื่อดูตลาดพลอยเจริญ โครงการหนูณิชย์พาชิม ตลาดกลางโชคเจริญ ที่เป็นตลาดขายส่งผัก และผลไม้ที่สำคัญของเชียงราย ซึ่งพบว่า สินค้าบางส่วนเป็นสินค้าที่นำเข้าจากจีน ก่อนกระจายไปยังตลาดชั้นในของไทย เช่น กระเทียม ทับทิม ฯลฯ
พร้อมกันนั้น นางอภิรดี และคณะยังได้เดินทางไปดูการกระบวนการจำหน่ายสินค้าของร้านธนพิริยะ สาขาเด่นห้า กลุ่มทุนค้าปลีกท้องถิ่นที่สามารถขยายสาขาได้หลายแห่ง และสามารถยืดหยัดสู้กับห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ๆ ได้มายาวนาน รวมถึงร้านนันทวัน (ก๋องคำ) ที่จำหน่ายสินค้าท้องถิ่น ขัวศิลปะ สถานที่แสดง และจำหน่ายผลงานศิลปินชาวเชียงราย
ด้าน นายอนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ปัจจุบันชาวจีนตอนใต้ต้องการบริโภคข้าวไทยมาก โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ แต่ติดปัญหาเรื่องโควตาส่งออกที่ต้องส่งออกผ่านเมืองท่าทางทะเล ทำให้เราไม่สามารถส่งออกไปยังจีนตอนใต้ผ่านเชียงรายได้ ทั้งที่สินค้าอื่นๆ มีการนำเข้า และส่งออกเป็นมูลค่ามากขึ้นทุกปี
ดังนั้น หากสามารถส่งออกข้าวผ่านทางเรือแม่น้ำโขง หรือทางรถผ่านถนนอาร์สามเอ ไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ ซึ่งใช้ขนสินค้าต่างๆ เป็นประจำอยู่แล้วก็จะเป็นผลดีต่อภาคเหนือของไทยอย่างมาก เพราะจะมีจุดระบายข้าวได้เป็นอย่างดีอีกจุดหนึ่ง โดยหวังว่าจะได้โควตาในปริมาณระดับหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มุ่งหวังส่งออกอย่างไม่มีขีดจำกัดแต่อย่างใด
นายอนุรัตน์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องจุดกระจายสินค้าที่ อ.เชียงของ ถือว่ามีความสำคัญมาก ซึ่งจีนมีศูนย์กระจายสินค้าโม่ฮาน ชายแดนจีน-สปป.ลาว ห่างจาก อ.เชียงของ ไปตามถนนอาร์สามเอ ประมาณ 245 กิโลเมตร และมีการขนสินค้าผ่าน สปป.ลาว มาจนถึงเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ตรงกันข้าม อ.เชียงของ
และหากโครงการของไทยล่าช้าไป และปล่อยให้จีนสร้างศูนย์กระจายสินค้าที่มีการเปลี่ยนหัวลากรถบรรทุกที่เมืองห้วยทรายอีก เราก็จะเสียโอกาส เพราะด่านฝั่งไทยจะกลายเป็นเพียงทางผ่านของรถบรรทุกเท่านั้น แต่ถ้าเรามีศูนย์กระจายสินค้าก็จะทำให้เศรษฐกิจของพื้นที่ดีขึ้นในทุกด้านต่อไป
สำหรับสถิติการค้าชายแดนด้าน จ.เชียงราย สำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงราย ระบุว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ค.2558 มีมูลค่าการค้ากับทั้งประเทศพม่า สปป.ลาว และจีนตอนใต้ รวม 24,928.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,330.41 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.64 จากการเพิ่มขึ้นของการค้ากับประเทศจีน และลาว เป็นสำคัญ
โดยมีมูลค่าการส่งออกรวม 22,950.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,742.39 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.22 ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 1,978.32 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 411.98 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.24 ส่วนใหญ่เป็นการค้าสินค้าเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าพลังงาน ฯลฯ ซึ่งมีแนวโน้มมูลค่าการค้าที่เพิ่มขึ้นทุกปี