นครราชสีมา - ผู้ว่าฯ โคราชระดมกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง พร้อมเครื่องจักรกลหนักรื้อถอนอาคารร้านอาหารรุกลำตะคองล็อตสุดท้าย 2 แห่ง ร้านซีฟูดและรีสอร์ตใหญ่ ตั้งอยู่ทำเลทองริมเขื่อนลำตะคอง เผยไม่มีกลุ่มมวลชนเคลื่อนไหวต่อต้าน เตรียมแผนฟื้นฟูพื้นที่ไม่ให้ถูกรุกพื้นที่อีก ฝากประชาชนซื้อที่ดินต้องดูเอกสารให้ถูกต้องตามกฎหมาย
วันนี้ (11 ก.ย.) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนคราชสีมา นำกำลังทหาร ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 1,000 นาย พร้อมเครื่องจักกลหนัก รถแบ็กโฮ รถไถ และรถบรรทุก รวมกว่า 50 คันเข้ารื้อถอนอาคารของนายสมชัย ศรีประเสริฐ เจ้าของร้านลำตะคองซีฟูด จำนวน 7 อาคาร และอาคารของนางลัดดา โพธิ์รักษ์ ร้านครัวอีสาน จำนวน 2 อาคาร ที่ปลูกสร้างรุกที่ราชพัสดุ บริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง (มอปลาย่าง) ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นล็อตสุดท้าย โดยไม่มีผู้ประกอบการหรือกลุ่มมวลชนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านแต่อย่างใด
นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนคราชสีมา กล่าวว่า การเข้ารื้อถอนครั้งนี้เป็นปฏิบัติการครบถ้วนตามกฎหมาย อาคารดังกล่าวบางส่วนถูกรื้อถอนไปต้องแต่รอบแรกแล้ว แต่เนื่องจากข้างในยังมีอาคารเหลืออยู่และท้องถิ่นไม่ได้ปิดประกาศจึงชะลอการรื้อถอนไว้ก่อน แต่มาถึงวันนี้ทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ต้องย้ำว่าการทวงคืนพื้นที่สาธารณะครั้งนี้ทำถูกต้องตามกฎหมาย การรื้อถอนรอบแรกและรอบสองได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ส่วนใหญ่เป็นเสียงชื่นชมมากกว่า
“การแก้ไขปัญหาล็อตสุดท้ายจริงๆ จะครบกำหนดในวันที่ 26 ก.ย.นี้ เจ้าหน้าที่จะเข้าไปรื้อถอนร้านค้าร้านสุดท้าย คือ อาคารของนายสนั่น กลมจันทร์ เจ้าของร้านไก่ย่างพรทิพย์ จำนวน 1 อาคาร ได้ไปทำความเข้าใจไว้แล้วคาดว่าน่าจะไม่มีปัญหา ในวันดังกล่าวจะมีอธิบดีกรมธนารักษ์ มาร่วมปิดปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่ของรัฐด้วย” นางธงชัยกล่าว และว่า ส่วนการปฏิบัติงานแบ่งออกไป 3 ระยะ คือ 1. รื้อถอนอาคารและร้านค้า ซึ่งขณะนี้ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว 2. หาพื้นที่รองรับใหม่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้มีผู้ประกอบการร้านอาหารจากมอปลาย่างเดิมเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดสรรให้ใหม่จำนวน 47 ราย ห่างจากจุดเดิมไปประมาณ 14 กิโลเมตร ติดถนนมิตรภาพ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ 3. ฟื้นฟูพื้นที่ มอบหมายให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมกันออกแบบปรับปรุงพื้นที่มอปลาย่างเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เบื้องต้นให้แนวคิดว่าไม่ให้มีอาคารใดๆ และไม่ให้แม่ค้าพ่อค้าหรือหาบเร่เข้าไปขายสินค้าในพื้นที่ดังกล่าว โดยอาจปรับภูมิทัศน์เพื่อให้เป็นที่พักของประชาชนที่สัญจรผ่าน คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้
ทั้งนี้ อยากฝากไปถึงประชาชนว่า การซื้อขายที่ดินจากใครนั้นต้องดูเอกสารหลักฐานเป็นสำคัญหากเป็นที่ดินของรัฐได้มาโดยไม่ถูกต้อง ในที่สุดต้องถูกเพิกถอนยึดคืน และหน่วยงานของรัฐเองต้องกำกับดูแลดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง ไม่ปล่อยปละละเลยให้กลายเป็นปัญหาสะสมเรื้อรังเหมือนเช่นกรณีของมอปลาย่าง