แผนฟื้นนักท่องเที่ยวตลาดฮ่องกง-ไต้หวันริบหรี่ หลังประกาศธงแดงเตือนนักท่องเที่ยวเข้าไทยจากเหตุวางระเบิดราชประสงค์

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ประกอบการท่องเที่ยวชี้แผนฟื้นนักท่องเที่ยวตลาดฮ่องกง-ไต้หวันริบหรี่ หลังประกาศธงแดงเตือนนักท่องเที่ยวเข้าไทย จากเหตุวางระเบิดราชประสงค์ ขณะที่ปัญหาเช่าเหมาลำลงสนามบินอู่ตะเภาน้อย เพราะค่า Landing และเชื้อเพลิงที่สูงกว่าพื้นที่อื่น ด้านนายกสมาคมนักธุรกิจพัทยารับลูกเตรียมขนตัวแทนเข้าร่วมหารือ ทร.เร็วๆ นี้

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวในที่ประชุมสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ว่า หลังจากเกิดเหตุความไม่สงบในกรุงเทพมหานคร ทำให้นักท่องเที่ยวจากกลุ่มไต้หวัน ฮ่องกง และสโลวัก ซึ่งเป็นประเทศที่มีความอ่อนไหวด้านการท่องเที่ยว ออกประกาศแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวภายในประเทศในระดับ 4 หรือ ธงแดง เพื่อให้ทบทวนการเดินทางสู่ประเทศไทย ซึ่งมีผลไปยังบริษัทประกันไม่รับประกันความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยว

จากปัญหาดังกล่าวทำให้นักท่องเที่ยวจากตลาดนี้หายไปเกือบ 100% และไม่มีทีท่าจะฟื้นกลับมาในอนาคตอันใกล้ โดยหากมีแผนที่จะทำการตลาดกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้คงเป็นเรื่องยาก เพราะต้องใช้เวลานานในการสร้างความมั่นใจ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย เรื่องนี้ภาครัฐต้องใส่ใจ และทำการประชาสัมพันธ์เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว

ส่วนแผนการฟื้นฟูการท่องเที่ยวในกลุ่มตลาดรัสเซีย คงต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง เพราะปัญหาเศรษฐกิจในรัสเซียเองก็ยังไม่ชัดเจน แต่คาดหมายว่าในช่วง Hi-season นี้คงมีการเดินทางออกไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ด้วยภาวะอากาศในประเทศรัสเซียที่หนาวจัด และจากการรายงานสถานการณ์การเดินทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินทางด้วยเครื่องบินในลักษณะการเช่าเหมาลำ พบว่า เป้าหมายกลับไปอยู่ในพื้นที่ภูเก็ต ซึ่งพบว่ามีจำนวนเที่ยวบินที่จะไปลงกว่า 700 เที่ยว ส่วนที่เหลือก็จะไปลงใน กทม. อย่างสุวรรณภูมิเป็นหลัก

“กรณีนี้ถือเป็นเรื่องเสียหาย เพราะภาคตะวันออกเองก็มีสนามบินขนาดใหญ่ อย่างอู่ตะเภาที่กำลังพัฒนาไปสู่ระดับนานาชาติ แต่กลับมีปัญหาในเรื่องของอัตราการจัดเก็บค่า Landing และค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสูงกว่าสนามบินอื่น ทำให้การตัดสินใจเดินทางมายังภูมิภาคตะวันออกน้อยลง”

นายธเนศ กล่าวว่า นอกจากนี้กลุ่มนักท่องเที่ยว FIT ซึ่งเดินทางเฉพาะกลุ่มเพียง 2-3 คน ก็พบว่าลดน้อยลงเพราะระบบขนส่งมวลชนจากสนามบินมายังสถานที่ท่องเที่ยวยังไม่มีความพร้อมรองรับ จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทบทวนประเด็นดังกล่าวเพื่อหาแนวทางการแก้ไขด้วย

ด้าน นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า หลังจากเปิดสนามบินอู่ตะเภาอย่างเป็นทางการแล้ว ความสนใจของนักท่องเที่ยวมีเพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงติดปัญหาในรายละเอียดบางประการ ซึ่งในเร็ววันนี้ทางสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะร่วมกับตัวแทนเมืองพัทยา ไปพูดคุย และหาแนวทางกับตัวแทนของสนามบินอู่ตะเภาด้วย