ลำพูน - วงการสงฆ์เมืองเจ้าแม่จามเทวีปั่นป่วน เจอพระปลอมห่มเหลืองนอนกระท่อมกลางนา จนต้องแจ้งตำรวจเข้าสอบสวนก่อนจับสึกทันที ขณะที่ศรัทธาวัดกู่คำรวมตัวไล่รักษาการเจ้าอาวาส หลังพบถือวิสาสะขึ้นบ้านญาติโยมหน้าตาเฉย
วันนี้ (6 ก.ย.) ร.ต.ท.คมกริช ก้อนเขื่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 20 สภ.เมืองลำพูน ได้รับแจ้งมีพระภิกษุจำนวน 1 รูปอาศัยอยู่ในกระท่อมกลางทุ่งนาของชาวบ้าน ริมถนนเลียบทางรถไฟ ใกล้กับสถานีรถไฟลำพูน โดยไม่จำพรรษาที่วัด และมีพฤติกรรมน่าสงสัย จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจชุด 131 เดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบผู้ที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ในกระท่อมกลางทุ่งนาดังกล่าว อ้างว่าชื่อพระครรชิต ฐานะวโร อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เดินทางมาจาก อ.ตาคลี โดยเคยบวชมาหลายปี แต่ได้สึกออกไปอยู่กับลูกได้ 4 เดือน แต่กลัวเป็นภาระของลูก จึงได้กลับมาบวชอีกครั้งช่วงก่อนเข้าพรรษา แต่ไม่ได้จำวัดที่บวช เนื่องจากมีปัญหากับพระในวัด และไม่รู้จะไปที่ไหน
ประกอบกับตนอยากอยู่ใกล้ๆ แม่ ซึ่งอยู่ที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ จึงได้นั่งรถไฟฟรีมาลงที่สถานีรถไฟลำพูนเมื่อ 10 วันก่อน จากนั้นได้ขออยู่ที่วัดไหนก็ไม่มีใครรับ เนื่องจากอยู่ในพรรษา ตนไม่มีที่ไปจึงได้เดินทางมาอาศัยที่กระท่อมดังกล่าวและได้ออกบิณฑบาตใกล้ๆ แถวนี้
เมื่อเจ้าหน้าที่ขอดูเอกสารใบสุทธิ พระครรชิต ฐานะวโร กลับนำเอกสารที่พิมพ์ขึ้นเองมาแสดงโดยไม่มีตราประทับรับรองแต่อย่างใด ต่อมาจึงนำใบสุทธิเก่าที่เคยบวชมาก่อนหน้านั้นมาแสดง แต่ได้หมดอายุไปแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองลำพูน พร้อมตรวจสอบไปที่พระอุปัชฌาย์ ทราบว่าหลังบวชมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ไม่อยู่วัด และสึกไปแล้ว จึงนำตัวไปที่วัดสวนดอก อ.เมืองลำพูน ให้พระครูโสภณ จิตตาภิรักษ์ เจ้าคณะตำบลในเมือง เขต 2 ทำการสึกจากความเป็นพระทันที
วันเดียวกัน นายสมพร ติใหม่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.ต้นธง อ.เมืองลำพูน พร้อมชาวบ้านนับร้อย ได้รวมตัวกันที่วัดกู่คำ เลขที่ 282 ต.ต้นธง เพื่อทำข้อตกลงกับพระสิงห์คำ วชิรวังโส อายุ 57 ปี รักษาการเจ้าอาวาส หลังนางนิตยา ติใหม่ หรือป้าติ่ง ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัด ได้แจ้งกับผู้ใหญ่บ้านว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 31 ส.ค. 58 พระสิงห์คำ ได้ถือวิสาสะเดินขึ้นมาบนบ้านแล้วขอน้ำดื่ม อ้างว่าได้กินผลไม้แล้วจุก ทำให้ตนตกใจมาก เพราะเห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
นอกจากนี้ เมื่อ 2 เดือนก่อนก็มีชาวบ้านเห็นพฤติกรรมของพระสิงห์คำในลักษณะเดียวกัน จนเคยมีการประชุม และทำข้อตกลงกันมาแล้ว แต่ก็ยังมีพฤติกรรมแบบเดิมอีก
ด้านพระสิงห์คำได้กล่าวในที่ประชุมว่า ตนไม่ได้ทำผิดอะไร แค่เอาบิลค่าไฟฟ้าไปฝากกรรมการวัดจ่ายค่าไฟให้ แล้วเหลือบไปเห็นลูกเชอร์รีจึงหยิบมาฉัน แต่เกิดอาการจุกเสียดแน่นหน้าอก และท้อง จึงเดินไปบ้านนางนิตยาเพื่อขอน้ำดื่มเท่านั้น หากว่าเมื่อชาวบ้านไม่ศรัทธา ไม่ต้องการให้อยู่ที่วัด ตนก็ไม่โกรธไม่เกลียดอะไร แต่ตนขอจำวัดให้ถึงวันออกพรรษานี้ จากนั้นก็จะไปอยู่ที่อื่น
เมื่อชาวบ้านได้ฟังแบบนั้นจึงพอใจพากันโห่ร้องด้วยความดีใจเพราะไม่ต้องลงมติขับไล่ ก่อนจะพากันสลายตัวไปเมื่อเวลา 16.00 น.