ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองเรือยุทธการ จัดงานรำลึกวันเรือดำน้ำครบรอบปีที่ 78
วันนี้ (4 ก.ย.) พล.ร.อ.พิจารณ์ ธีรเนตร ผู้บัญชาการ กองเรือยุทธการ เป็นประธานในงานพิธีรำลึกวันเรือดำน้ำ ครบรอบปีที่ 78 ณ กองบัญชาการ กองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พล.ร.ต.ภาณุ บุณยะวิโรจ ผู้บัญชาการกองเรือดำน้ำ พร้อมกำลังพลหน่วยให้การต้อนรับ และเข้าร่วมในพิธีทางศาสนาที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรประวัติ และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลแด่ผู้วายชนม์ อดีตกำลังพลเรือดำน้ำ ชุดเรือหลวงมัจฉาณุทั้ง 4 ลำ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทย
พล.ร.อ.พิจารณ์ กล่าวว่า จุดกำเนิดของการจัดงานดังกล่าวเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2480 เมื่อครั้งกำลังพลของเรือหลวงมัจฉานุ และเรือหลวงวิรุณ ลงประจำเรือดำน้ำทั้ง 2 ลำ ที่อู่ต่อเรือประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของกองทัพเรือไทยมีเรือดำน้ำใช้ในราชการ จึงถือเอาวันนี้เป็นจุดกำเนิดแห่งการเริ่มต้นการมีเรือดำน้ำในกองทัพเรือไทย จนมาเป็นวันรำลึกถึงวีรประวัติ และคุณประโยชน์ที่กำลังพล เรือดำน้ำชุดเรือหลวงมัจฉาณุทั้ง 4 ลำ ได้ทำคุณประโยชน์ให้ชาติ และราชนาวี ถือเป็นวันเรือดำน้ำ รวมระยะเวลา 78 ปี
สำหรับวีรประวัติเรือดำน้ำชุดเรือหลวงมัจฉาณุ ได้สร้างวีรกรรมครั้งสำคัญให้ต้องเป็นที่จดจำกับภารกิจในการช่วยปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ จากการถูกรุกรานของฝรั่งเศส ในกรณีพิพาทอินโดจีน กล่าวคือ ภายหลังฝรั่งเศสพ่ายแพ้ต่อนาซีเยอรมัน ในต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ไทยได้เรียกร้องต่อฝรั่งเศสขอดินแดนที่ถูกยึดกลับคืน และถูกตอบกลับด้วยการโจมตีทางอากาศที่จังหวัดนครพนม ไทยจึงส่งกำลังพลทางบก และอากาศ เข้ายึด และโจมตีที่มั่นสำคัญของกำลังพลฝรั่งเศสในลาว และกัมพูชา
ส่วนทางทะเลนั้น ฝรั่งเศสได้ส่งกำลังพลทางเรือจากฐานทัพเรือเรียม เข้าลิดรอนทำลายกำลังทางเรือของไทย เกิดเป็นยุทธนาวีเกาะช้าง เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2484
การรบทางเรือในครั้งนั้นกำลังพลทางเรือฝรั่งเศส จำเป็นต้องเดินเรือเลาะมาตามชายฝั่งของเวียดนาม และกัมพูชา เพื่อลดความเสี่ยงที่จะปะทะกับเรือดำน้ำไทย และภายหลังการปะทะกับกำลังทางเรือของไทยก็ต้องรีบเดินทางกลับ เพราะเกรงว่า เรือดำน้ำของไทยอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการ ทำให้ภารกิจในการควบคุมทางทะเลด้านตะวันออกของอ่าวไทยไม่บรรลุ
นอกจากนี้ ยังถูกเรือดำน้ำของไทยติดตามไปจนถึงฐานทัพเรือเรียม จากนั้นมาก็ไม่ปรากฏเรือรบของฝรั่งเศสออกมาปฏิบัติการอีกเลย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการป้องปรามของเรือดำน้ำที่แม้ไม่ปรากฏตัวให้เห็น แต่มีผลคุกคามต่อข้าศึกได้ทุกพื้นที่