ร้อยเอ็ด - ฉาวโฉ่! ตำรวจยิงตำรวจดับ ร.ต.ท.ไม่พอใจ สวป.สภ.โพนทอง ประเมินผลงานต่ำจนไม่ได้รับการปรับขึ้นเงินเดือน พก 11 มม.เข้าไปเคลียร์ปัญหา แต่คำตอบไม่สบอารมณ์ รัวไม่ยั้ง 6 นัดเสียชีวิตใต้โต๊ะอาหารตู้ยามจราจร ที่อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด
วันนี้ (4 ก.ย.) ร.ต.ท.สมเกียรติ ใคร่นุ่นน้อย พงส.สภ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงกันตายในตู้ยามจราจร ต.01 สี่แยกโพนทอง-เสลภูมิ ม.12 ต.สระนกแก้ว จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ บัวเทิง รอง ผกก.(ป.) รรท.ผกก.สภ.โพนทอง
พบศพ พ.ต.ท.พิรวัฒน์ ภูมิภาค อายุ 45 ปี สวป.สภ.โพนทอง นอนหงายเสียชีวิตอยู่ใต้โต๊ะอาหารข้างตู้ยาม มีอาหารหลายอย่างวางอยู่บนโต๊ะ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. ที่หน้าอก และลำตัวหลายแห่ง พบปลอกกระสุนปืน 6 ปลอก ส่วนมือปืนรายนี้คือ ร.ต.ท.ประวิทย์ ทอนทอง อายุ 56 ปี รอง สวป.สภ.โพนทอง หลังก่อเหตุได้ขับรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บค 3199 มุกดาหาร หลบหนีไป
จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ท.พิรวัฒน์ ได้เรียกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานจราจรไปประชุมที่ตู้ยามดังกล่าว หลังประชุมเสร็จจึงนั่งรับประทานอาหารร่วมกัน
สักพัก ร.ต.ท.ประวิทย์ ก็ขับรถกระบะมาจอดที่หน้าตู้ยาม แล้วเดินเข้าไปที่โต๊ะอาหารถามผู้ตายว่าทำไมจึงบันทึกเสนอผู้บังคับบัญชาว่าตนมีความบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ ไม่สมควรได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน
ผู้ตายบอกว่า เรื่องทุกอย่างมันจบไปแล้วไม่มีอะไรจะต้องมาพูดกันอีก พอได้ยินดังนั้น ร.ต.ท.ประวิทย์จึง ชักปืนพกออกมาจากเอวแล้วยิงเข้าใส่ผู้ตาย 1 นัด จนล้มลงพร้อมกับเก้าอี้ที่นั่งอยู่ จากนั้น ร.ต.ท.ประวิทย์ ก็ตะโกนบอกตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ว่า อย่ามายุ่ง ก่อนจะกระหน่ำยิงซ้ำอีก 5 นัด จนผู้ตายแน่นิ่งแล้วขับรถหลบหนีไป
และเมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.ท.ประวิทย์ ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.สว่าง อ.โพนทอง ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร
ต่อมา พ.ต.อ.สุทธิชัย บุนนาค รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด รุดไปสอบสวนปากคำ ร.ต.ท.ประวิทย์ พร้อมกับนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับคำสารภาพ ซึ่ง ร.ต.ท.ประวิทย์ อยู่ในอาการเครียด มีสีหน้านิ่งเฉย ไม่ยอมตอบคำถามผู้สื่อข่าว เมื่อนำตัวเข้าห้องควบคุมก็ล้มตัวลงนอนทันที
ด้าน พ.ต.อ.สุทธิชัย บุนนาค รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จากการสอบถาม ร.ต.ท.ประวิทย์ ให้การว่าสาเหตุที่ลงมือยิงครั้งนี้เพราะความโกรธที่โดนประเมินผลงานต่ำ จนไม่เสนอเลื่อนขั้นเงินเดือน โดยรู้จากเพื่อนตำรวจว่า ถูกบันทึกเรื่องความประพฤติ จึงออกจากบ้านพักเพื่อไปขอพบกับ พ.ต.ท.พิรวัฒน์ ที่ห้องทำงานบนโรงพักเพื่อขอทราบข้อเท็จจริง และได้ไปพบบันทึกฉบับดังกล่าวอยู่บนโต๊ะ สวป. จึงทราบว่า ไปประชุมที่ตู้ยาม ผู้ต้องหาจึงขับรถยนต์ตามไปเพื่อขอทราบข้อเท็จจริง แต่โดนคำพูดตัดขาดว่าเรื่องมันจบแล้วไม่ต้องพูดกันอีก เกิดบันดาลโทสะชักอาวุธปืนประจำกายยิงจนเสียชีวิต พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา เพื่อดำเนินคดีต่อไป