อุบลราชธานี-ผัวช่างเฟอร์นิเจอร์สวมบทโหดหลังถูกเมียตบหัวต่อหน้าเพื่อนในวงเหล้า ใช้ 9 มม.กระหน่ำยิงเมียจนหมดแมก 12 นัด ก่อนขับรถหลบหนีไปจนมุมอยู่ในโรงพัก และถูกจับได้โดยละม่อม สารภาพแค้นที่เมียตบหัวโชว์ต่อหน้าเพื่อน
เมื่อเวลา 21.35 น. คืนที่ผ่านมา (3 ก.ย.) ร.ต.ท.สุริยา นนเทศา ร้อยเวร สภ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายในบ้านเลขที่ 36 บ้านภูมะหรี่ หมู่ 2 ต.ดอนจิก จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สนอง บุญเกิด ผกก. พ.ต.ท.สุทิน สะเดา รอง ผกก.ป.ไปตรวจที่เกิดเหตุ
ทราบชื่อคนตายคือ นางอังคณา อิ่มละมัย อายุ 34 ปี เจ้าของบ้านมีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม.ตามลำตัว จำนวน 12 นัด เสียชีวิตคาที่ ส่วนมือปืนทราบชื่อคือ นายวิชัย ตุ้มมาศ อายุ 35 ปี เป็นสามีของคนตายเอง
หลังก่อเหตุได้ขับรถกระบะมิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน ฎษ 2096 กทม. แล่นหลบหนีเข้าไปในตัวอำเภอ จึงวิทยุแจ้งให้ พ.ต.ต.ชยกร สอนอาจ สวป.นำกำลังออกมาสกัดจับตามเส้นทางที่คาดจะหลบหนี
ต่อมา พบรถคนร้ายแล่นมาด้วยความเร็วมุ่งหน้าเข้าเขตเทศบาล เจ้าหน้าที่ได้นำรถไล่ติดตาม พร้อมวางกำลังดักด้านหน้า ด้านหลังจนรถคนร้ายแล่นเข้าไปจนมุมอยู่ในสถานีตำรวจพิบูลมังสาหาร และนายวิชัย ยอมให้จับแต่โดยดีในสภาพมีอาการเมาสุราอย่างหนัก
จากการตรวจค้นในรถพบอาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมแมกกาซีนใช้บรรจุกระสุน 1 อัน กระสุนปืนที่ยังไม่ได้ยิงอีก 13 นัด ซองพกใน 1 ซอง จึงคุมตัวมาสอบสวน
นายวิชัย รับสารภาพว่า เป็นคนในหมู่บ้านดอกจิก หมู่ 14 ต.ดอนจิก และไปทำงานเป็นช่างทำเฟอนิเจอร์ในกรุงเทพฯ กับนางอังคณาผู้ตาย กระทั่งเก็บเงินได้จำนวนหนึ่งจึงมาซื้อที่ปลูกบ้านในหมู่บ้านภูมะหรี่ที่เกิดเหตุ
นายวิชัย กล่าวว่า เมื่อวันก่อนเหตุลาพักเดินทางกลับมายกเสาเอกในเช้าวันที่ 3 ก.ย. ระหว่างช่างทำการยกเสาเอกปรากฏว่า เสาบ้านได้ล้มลงมาทับช่างได้รับบาดเจ็บ จึงนำตัวส่งให้แพทย์รักษาที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ และกลับมาตั้งวงดื่มสุรากับช่าง และเพื่อนบ้าน
กระทั่งพลบค่ำ คนในวงสุราเริ่มเมาได้ที่เกิดมีปากเสียงกันขึ้น ตนจึงนำเอาปืนพกเถื่อนที่ซื้อมาจากคนรู้จักขณะไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ ออกมาขู่ แต่นางอังคณา ภรรยาที่นั่งดื่มกินอยู่ด้วยกันไม่พอใจ พร้อมเกรงจะมีเรื่องบานปลาย
จึงใช้มือตบหัวนายวิชัย ต่อหน้าเพื่อนๆ พร้อมไล่ให้เลิกกินเหล้าเพราะเห็นว่าทุกคนเริ่มเมาแล้ว
ทำให้นายวิชัย เกิดบันดาลโทสะ ซ้ำแค้นใจที่ถูกเมียตบหัวต่อหน้าเพื่อนๆ จึงใช้ปืนกระบอกดังกล่าวยิงใส่นางอังคณา ในระยะกระชั้นชิดจนหมดแมกกาซีน 12 นัด ก่อนเดินไปขึ้นรถเพื่อหลบหนีกลับกรุงเทพฯ แต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับไว้ได้ในที่สุด
เบื้องต้น ได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร ขับรถในขณะมึนเมาสุรา และมีแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป