กาฬสินธุ์ - สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) กาฬสินธุ์ มอบความสุขให้ผู้สูงอายุ ปล่อยเงินกู้ยืมประกอบอาชีพปลอดดอกเบี้ยผู้สูงอายุ 23 ราย วงเงิน 685,000 บาท เผยที่ผ่านมาปล่อยกู้แล้วกว่า 2 พันราย เป็นอันดับ 2 ของประเทศ
วันนี้ (3 ก.ย.) ที่ศูนย์เครือข่ายสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ ชั้น 1 นางแจ่มจันทร์ เกียรติกุล หัวหน้าสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) กาฬสินธุ์ เป็นประธานมอบเช็คเงินกู้ยืมประกอบอาชีพให้แก่ผู้สูงอายุ พร้อมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติและกำชับการใช้เงินให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการกู้ยืมเพื่อให้เกิดคุณค่า ที่จะเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ โดยมีผู้สูงอายุรับมอบเช็คครั้งนี้ 23 ราย วงเงิน 685,000 บาท
นางแจ่มจันทร์กล่าวว่า สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) กาฬสินธุ์ ได้ดำเนินการจ่ายเงินกู้ยืมให้แก่ผู้สูงอายุเพื่อเป็นเงินทุนประกอบอาชีพรายบุคคล ทั้งนี้ เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการคืนความสุขให้แก่ประชาชน ทั้งยังเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ โดยมอบเงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพให้แก่ผู้สูงอายุที่ต้องการมีรายได้ สามารถช่วยเหลือตนเองได้
ซึ่งผู้สูงอายุที่มีความประสงค์จะประกอบอาชีพแต่ไม่มีเงินทุนประกอบการ เขียนโครงการเข้ามาเสนอ มีคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติ และอนุมัติงบประมาณโดยกองทุนผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเป็นเงินกู้ยืมปลอดดอกเบี้ย โดยจัดมอบในรอบนี้ 23 ราย วงเงิน 30,000 บาท 22 ราย และวงเงิน 25,000 บาท 1 ราย รวมเป็นเงิน 685,000 บาท
ทั้งนี้ มีเงื่อนไขให้กู้ยืมโดยปลอดดอกเบี้ย ชำระคืนเดือนละ 1,000 บาท หากชำระไม่หมดภายในเวลากำหนดตามสัญญาจะถูกปรับดอกเบี้ยร้อยละ 7.5
นายนพศร ยะปะเต นิติกร สำนักงาน พมจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การจ่ายเงินกู้ยืมกองทุนกู้ยืมดังกล่าว ในส่วนของ จ.กาฬสินธุ์ได้ปล่อยเงินกู้ยืมประกอบอาชีพรายบุคคลมาตั้งแต่ปี 2552 มีผู้สูงอายุกู้ไปแล้ว 2,077 ราย ส่วนใหญ่นำไปประกอบอาชีพเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ และค้าขาย โดย พมจ.กาฬสินธุ์ได้ปล่อยกู้ฯ เป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจาก จ.มุกดาหาร แต่กลับมีจำนวนหนี้ค้างชำระเป็นอันดับ 1 ของประเทศ
โดยยอดค้างไม่ชำระประมาณ 35 ล้านบาท คิดเป็น 74.45% ซึ่งจะได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบ เพื่อให้ผู้สูงอายุใช้เงินกู้ยืมให้เกิดคุณค่า เกิดรายได้ ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ไม่เป็นภาระของบุตรหลาน และบุตรหลานก็ควรที่จะเข้ามาช่วยเหลือผู้สูงอายุในส่วนนี้ด้วย
จึงได้ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจการใช้เงินให้เกิดประโยชน์ ตรงตามวัตถุประสงค์การขอกู้ เนื่องจากเป็นเงินกู้ยืม ที่เมื่อกู้ยืมแล้วต้องจ่ายคืน เพื่อนำเงินส่วนนั้นเข้ากองทุนและให้ผู้สูงอายุรายอื่นได้กู้ยืมต่อไป หากไม่ชำระคืนก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย