พิษณุโลก - เจ้าหน้าที่อาวุโส สตง.พร้อม ทสจ.พิษณุโลก ศิลปากรที่ 6 และฝ่ายปกครอง ตรวจพื้นที่เตรียมการผุดโรงกำจัดขยะสามวิหาร สงสัยทับวัดโบราณ ยันผู้ว่าฯ สั่งชะลอแล้ว ขณะที่ชาวบ้านตามเรียกสอบโครงการโรงไฟฟ้าขยะ 1.7 พันล้านอีก หลังพบถนนคอนกรีต อบจ.โผล่กลางนารอรับแล้ว
วันนี้ (2 ก.ย.) ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ เจ้าหน้าที่สอบสวนอาวุโส สำนักตรวจสอบจริยธรรมและกิจการพิเศษ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ประชุมร่วมกับนายอนันต์ พรหมดนตรี ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.พิษณุโลก, นางเรียม พุ่มพงษ์แพทย์ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย, นายรัชพงษ์ ศิริมี ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองพิษณุโลก, นางทองม้วน พันธุรี นายก อบต.สมอแข และพระอธิการวันชัย ชะยานันโท เจ้าอาวาสวัดเนินมะคึก ตัวแทนชาวบ้านหมู่ 6 ต.สมอแข ที่ห้องประชุม อบต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก
ทั้งนี้ เพื่อรับฟังข้อชี้แจ้งกรณี อบต.สมอแข ที่ได้รับงบประมาณจากกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มูลค่า 61 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะเพื่อผลิตเชื้อเพลิง RDF และปุ๋ยอินทรีย์ แต่ชาวบ้านรวมตัวคัดค้าน เพราะเห็นว่าสถานที่ก่อสร้าง พื้นที่ 17 ไร่ในที่สาธารณประโยชน์สามวิหาร หมู่ 6 บ้านเนินมะคึก ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก เคยเป็นวัดโบราณมาก่อนและร้างไป พร้อมขอให้ทางสำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย และ สตง.เข้ามาตรวจสอบ
ร.ต.ต.พงศกรกล่าวว่า วันนี้มาพบว่าชาวบ้านที่คัดค้านโครงการก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะบนพื้นที่ที่คาดว่าเป็นที่ตั้งวัดโบราณมาก่อน และเกรงว่าจะส่งผลกระทบในด้านสิ่งแวดล้อม จึงอยากจะขอให้ทาง อบต.สมอแขสำรวจหาพื้นที่อื่นที่จะสร้างโรงงานกำจัดขยะ และให้ชะลอโครงการนี้ไว้ก่อน
ขณะที่นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ก็ได้มีหนังสือไปถึงกรมศิลปากรและสำนักงานพระพุทธศาสนา เพื่อตรวจสอบทะเบียนที่ดินสามวิหาร ว่าจัดอยู่ในทะเบียนพื้นที่โบราณสถานหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีหนังสือมายัง อบต.สมอแข ว่า ระหว่างการพิสูจน์สิทธิ์ต่างๆ นั้นให้ชะลอกำหนดการประชาคมเอาไว้ก่อน จนกว่าจะมีความชัดเจน เนื่องจากทำไปก่อนก็จะสิ้นเปลืองงบประมาณ
ทั้งนี้ ถ้าหากทำประชาคมแล้ว แต่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เห็นด้วยจำนวนกว่า 80% จะทำให้โครงการดังกล่าวไม่สามารถก่อสร้างได้ หรืออาจต้องพิจารณาหาพื้นที่อื่นๆ เนื่องจากงบประมาณที่จะนำมาใช้นั้นเป็นงบของปี 2559 ต้องดำเนินเรื่องให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2558
อย่างไรก็ตาม อบต.สมอแขก็ยืนยันว่า ถ้าหากชาวบ้านกว่า 80% ทำประชาคมแล้วไม่เห็นด้วย ทาง อบต.สมอแขก็ยินดีที่จะยกเลิกโครงการดังกล่าว จะไม่ดึงดันก่อสร้างอย่างแน่นอน
นายอนันต์ พรหมดนตรี ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.พิษณุโลก กล่าวว่า จากการที่ อบต.สมอแขต้องการทำโครงการจัดการขยะด้วยตัวเอง และเป็นศูนย์เรียนรู้การทำปุ๋ย ทางกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงให้งบประมาณลงมา แต่ที่ดินจุดที่จะสร้างเกิดปัญหาขึ้น หรือมีประชาชนคัดค้านการออกที่ นสล. (หนังสือสำคัญที่หลวง) ก็ไม่สามารถจัดประชุมในเรื่องขออนุญาตเปลี่ยนสภาพจากการใช้ที่ดินสาธารณะ เพื่อเป็นพื้นที่จัดตั้งโรงกำจัดขยะ RDF ศูนย์เรียนรู้ทำปุ๋ยได้ งบประมาณก็ตกไป เพราะเอกสารลงนามต้องทำให้เสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ซึ่งตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับ อบต.สมอแขว่าจะจัดหาที่ดินใหม่ให้ได้ทันหรือไม่ พร้อมกับต้องประสานเรื่องกับกรมศิลปากร ดำเนินการตรวจสอบที่ดินสามวิหารเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงดำเนินการต่อไป
ต่อมาได้มีชาวบ้าน ต.บ้านป่า และ ต.ดอนทอง อ.พิษณุโลก จำนวนกว่า 100 คน นำโดยนางบุญซึ้ง คงหุ่น อยู่บ้านเลขที่ 27/10 หมู่ 8 ต.บ้านป่า อ.เมืองพิษณุโลก ได้เข้ายื่นหนังสือให้ ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ เจ้าหน้าที่สอบสวนอาวุโส สำนักตรวจสอบจริยธรรมและกิจการพิเศษ สำนักงานผู้ตรวจการ ขอให้ สตง.ตรวจสอบโครงการก่อสร้างไฟฟ้าพลังงานขยะ มูลค่าร่วม 1.7 พันล้านบาท ที่จังหวัดลงนามความร่วมมือกับอีโคเวสท์ แมนเนจเม้นท์ เตรียมก่อสร้างกลางผืนนาเนื้อที่ 60 ไร่ หมู่ 7 ต.บ้านป่า อ.เมืองพิษณุโลก ที่มีถนนคอนกรีตของ อบจ.ตัดเชื่อมเข้าพื้นที่รอแล้ว
โดยทาง ร.ต.ต.พงศกรได้รับหนังสือไว้ พร้อมกับจะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป