ศูนย์ข่าวขอนแก่น - อัยการสูงสุดจับมือ ม.ขอนแก่นลงนามความร่วมมือทางวิชาการ การวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ทางกฎหมาย พัฒนาหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต พร้อมมอบให้วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่นเป็นกลไกหลักดำเนินการทั้งหมด นำร่องพื้นที่ของอัยการจังหวัดทั้ง 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วันนี้ (1 ก.ย. 58) ที่ห้องประชุมชั้น 9 สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) พร้อมด้วย นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด ร่วมพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยขอนแก่น กับสำนักงานอัยการสูงสุด โดยมี รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ คณบดีวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มข. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น และคณะผู้บริหารสำนักงานอัยการสูงสุดร่วมเป็นสักขีพยาน
นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด กล่าวว่า การลงนามตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวจะสร้างและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือทางกฎหมาย การให้บริการทางวิชาการ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาพรวมทั้งหมด นำร่องในพื้นที่รับผิดชอบของอัยการจังหวัดทั้ง 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นการส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรบุคคลทุกระดับให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีสมรรถนะสูง โดยมีเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมสำหรับการบริหารองค์กรด้วยหลักธรรมาภิบาล
“ในบันทึกข้อตกลงทั้ง 2 หน่วยงานจะให้ความร่วมมือทางวิชาการ การวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้และการบริหารเรื่องที่เป็นประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม การจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการให้แก่ประชาชนได้รับความรู้ทางด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องและที่ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงพัฒนาหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต และหลักสูตรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทางกฎหมาย โดย มข.มอบหมายให้วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการในภาพรวมทั้งหมด”
ด้าน รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) กล่าวว่า จากกรอบความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย ซึ่ง มข.มอบหมายให้วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่นจัดทำหลักสูตรการบริการทางวิชาการเกี่ยวกับการบริหารและการพัฒนาองค์การความร่วมมือทางวิชาการ การวิจัยและพัฒนาด้านการประชุมวิชาการ รวมทั้งสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่บุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุดทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ในหลักสูตรระดับปริญญาโท
การได้รับความไว้วางใจจากสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นเครือข่ายทำงานร่วมกัน 3 ฝ่าย จะส่งผลต่อการให้บริการแก่ชุมชนชัดเจนขึ้น สอดคล้องกับแนวทางของมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่มุ่งเน้นเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชนและสังคม ควบคู่กับการเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการวิจัยชั้นนำของประเทศ
ทั้งนี้ ยอมรับว่าทิศทางบริหารวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่นเดินมาถูกทาง จากผลการทำงานร่วมกับทุกฝ่ายในหลายกิจกรรมและโครงการที่สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ทั้งได้รับคำชมเชยจากองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศ เชื่อมั่นว่าภาพการทำงานจากนี้จะเด่นชัดและลงลึกไปในระดับชุมชน ตำบล และหมู่บ้าน สามารถเข้าถึงการให้บริการทางวิชาการระหว่าง มข. กับสำนักงานอัยการได้ง่ายขึ้น