เชียงราย - “พระ ว.วชิระเมธี-ผู้ว่าฯ เชียงราย” เปิดศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน จัดงาน “รวมพลัง สร้างมิติใหม่ อาหารปลอดภัย ไทยเป็นสุข” ยกพระธรรมพระพุทธเจ้าสอนเกษตรกรเลิกใช้สารเคมี ย้ำดีทั้งคนผลิต-คนซื้อ คนขาย-คนกิน
วันนี้ (31 ส.ค.) พระมหาวุฒิชัย วชิระเมธี หรือ ว.วชิระเมธี, นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ร่วมกันเปิดงาน “รวมพลัง สร้างมิติใหม่ อาหารปลอดภัย ไทยเป็นสุข” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ส.ค.-1 ก.ย. ณ ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย โดยมีนายกิตติ ทิศสกุล ผู้จัดการโครงการบูรณาการอาหารปลอดภัยเชียงรายเป็นสุข นำเครือข่ายทั้งโรงเรียนเทศบาล 6, โรงเรียนเทศบาล 8 นครเชียงราย, กลุ่มเกษตรกรชุมชนเกษตรปลอดภัย, ร้านอาหาร, โรงแรม, หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประมาณ 500 คน
พระมหาวุฒิชัยกล่าวว่า เรื่องของอาหารการกินถือเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับชีวิต อาหารที่บริโภคแล้วปลอดภัยจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยมีเรื่องเล่าในสมัยพุทธกาลเกี่ยวกับอาหารว่า ได้มีชายคนเลี้ยงวัวคนหนึ่งดั้นด้นเดินทางไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อจะฟังธรรมะ จึงไม่ได้รับประทานอาหารเลย ทำให้มีอาการกระสับกระส่ายไม่มีสมาธิ พระพุทธเจ้าจึงให้จัดหาอาหารให้รับประทานจนอาการดีขึ้น ก็สามารถรับฟังธรรมะได้อย่างดี ก่อนตรัสสอนว่า “ความหิวเป็นยอดแห่งโรค” และ “ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” และ “สรรพสัตว์ทั้งหลายดำรงอยู่ได้ด้วยอาหาร”
พระมหาวุฒิชัยกล่าวอีกว่า ยิ่งในยุคปัจจุบัน ซึ่งโลกกำลังมีวิกฤตประชากรเพิ่มขึ้น วิกฤตพลังงาน วิกฤตการแย่งชิง และก็จะเกิดวิกฤตอาหาร ในฐานะที่ประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์ จึงควรจะใช้โอกาสนี้ในการบริหารจัดการให้อาหารมีความปลอดภัย ซึ่งงานครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะการทำการเกษตรปลอดภัยจากสารเคมีเป็นปัจจัยนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดี และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงก็วิจัยแล้วพบว่าพื้นที่ จ.เชียงรายมีการซื้อสารเคมีเพื่อการเกษตรปีละกว่า 2 ล้านกระป๋อง ซึ่งมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศด้วย
“ครั้งหนึ่งเคยมีคนนำต้นลำไยที่หมดสภาพแล้วเพราะใช้สารเคมีมานานไปไว้ที่สำนักปฏิบัติธรรม อาตมาก็ปล่อยทิ้งเอาไว้ 3 ปีโดยไม่ใส่สารเคมีใดๆ เลย ตอนนี้ลำไยต้นนั้นกลับเจริญเติบโตให้ผลผลิตดีมาก แสดงให้เห็นว่าสารเคมีไม่ได้ทำให้ได้ผลดีตลอดไป แต่มีผลกระทบข้างเคียงมากมาย และถ้าไม่ใช้สารเคมี คนปลูก คนทำก็ปลอดภัย ได้กินปลอดภัย คนที่ซื้อไปก็ได้ความปลอดภัย คนขายก็ได้บุญดี เพราะไม่ต้องทำร้ายคนกินทางอ้อม เกิดชื่อเสียงไปทั่ว จึงนับว่าดีในทุกด้าน”
ด้านนายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ขณะที่จังหวัดฯ ได้ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาทสร้างสถานที่จำหน่ายผลผลิต ห้องแล็บสำหรับตรวจสอบคุณภาพสินค้าทางการเกษตร ฯลฯ ที่ ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย เชื่อว่าจะทำให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าจะได้อาหารที่ปลอดภัยในยุคปัจจุบันแน่นอน คนขายเองก็มีกำลังใจที่มีตลาด สำหรับที่ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวันของพระมหาวุฒิชัยถือเป็นการนำร่องที่มีการดำเนินการภายในไร่ด้วยเกษตรปลอดภัยมาก่อน ถือว่าท่านให้ความเมตตาต่อชาวเชียงรายอย่างมาก
