ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมกองทัพอากาศและหน่วยงานเกี่ยวข้อง จัดซ้อมแผนฉุกเฉินจำลองสถานการณ์ถูกผู้ก่อการร้ายปล้นยึดอากาศยานและอาคาร พร้อมจับตัวประกัน ตามมาตรฐานสากลขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ เพื่อซักซ้อมเตรียมความพร้อมการคลี่คลายสถานการณ์ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการ
คืนวานนี้ (26 ส.ค. 58) ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ นาวาอากาศเอก วิสูธ จันทนา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการฝึกซ้อมบางส่วนตามแผนฉุกเฉินประจำปี 2558 ซึ่งท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นตามข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบับที่ 28 ว่าด้วยระบบการจัดการด้านนิรภัยของสนามบิน ตามมาตรฐานสากลขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO)
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบความรวดเร็ว ถูกต้อง และความชำนาญเกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติงาน การวางแผน การควบคุมและสั่งการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตลอดจนทดสอบขีดความสามารถของเครื่องมือและอุปกรณ์เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย การดับเพลิงและกู้ภัย การแพทย์ ข่ายการติดต่อสื่อสารและการประสานงาน เป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มาใช้บริการ ผู้โดยสาร และสายการบิน
สำหรับการฝึกซ้อมในครั้งนี้ได้ดำเนินการร่วมกับกรมปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เน้นไปยังการปล้นยึดอากาศยาน อาคาร และตัวประกัน เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางโดยอากาศยานได้รับความนิยมมากขึ้น และท่าอากาศยานเชียงใหม่ก็เป็นหนึ่งในช่องทางหลักของการเดินทางเข้าออกประเทศ ซึ่งอาจมีกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีแอบแฝงเข้ามาก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่
ทั้งนี้ ได้สมมติสถานการณ์ว่ามีคนร้าย 5 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ บุกเข้ามาจับผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ตรวจค้นสัมภาระ 10 คนเป็นตัวประกัน โดยคนร้ายนำตัวประกันทั้งหมดไปรวมไว้ในห้องแสดงนิทรรศการ และเรียกร้องขอเจรจากับผู้มีอำนาจเปิดทางให้กลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวนที่จะตามมาสมทบ ขึ้นเครื่องบินโดยสารจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ไปยังประเทศที่สาม
สำหรับการจำลองการแก้ไขสถานการณ์นั้น ได้มีการจัดตั้งชุดเฉพาะกิจแก้ไขสถานการณ์ โดยมีนายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการแก้ไขสถานการณ์สมมติที่เกิดขึ้น โดยมีตัวแทนจากหลายหน่วยงานความมั่นคงในจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วม เพื่อเตรียมความพร้อมในการติดต่อสื่อสาร และการประสานงานเพื่อแก้ไขสถานการณ์หากเกิดสถานการณ์จริงอีกด้วย