คนร้ายโจรกรรม จยย.หนุ่มนักศึกษาในห้างดังกลางเมืองจันทบุรี

จันทบุรี - คนร้ายก่อเหตุโจรกรรมรถจักรยานยนต์ของหนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดจันทบุรี ที่ขี่มาจอดเพื่อลงไปซื้อของในห้างดังกลางเมืองจันทบุรี กลับออกมาพบว่ารถจักรยานยนต์ได้หายไปแล้ว ก่อนโทร.แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

เมื่อค่ำวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบ ได้รับแจ้งจาก นายศุธิพงษ์ อาจนารี อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งขนาน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดจันทบุรี ว่า รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ที่ลานจอดรถตลาดนัดจตุจักร ได้ถูกคนร้ายโจรกรรมไป

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า เป็นลานจอดรถตลาดนัดจตุจักรใกล้กับห้างดัง พบ นายศุธิพงษ์ อาจนารี ผู้เสียหายยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่

จากนั้น นายศุธิพงษ์ ได้ชี้จุดที่นำรถจักรยานยนต์สกู๊ปบี้ไอ สีขาว หมายเลขทะเบียน กฆ 6487 จันทบุรี มาจอดที่ลานจอดบรเวณดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู พบว่า รถจักรยานยนต์ได้หายไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน และขอดูกล้องวงจรปิดจากเจ้าของตลาดนัด พบว่า กล้องวงจรปิดไม่สามารถจับภาพคนร้ายที่ก่อเหตุไว้ได้ เนื่องจาก นายศุธิพงษ์ ได้จอดรถจักรยานยนต์ในมุมที่กล้องส่องไปไม่ถึง

ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจะได้แกะรอยจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง และตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนีเพื่อนำภาพมาประมวลในการเร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุโจรกรรมรถจักรยานยนต์รายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ให้ผู้เสียหายได้เดินทางไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม นายสุธิพงษ์ อาจนารี ผู้เสียหายได้ความว่า ตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากหอพักเพื่อมาซื้อของใช้ที่ห้างดังกลางเมืองจันทบุรี หลังมาถึงห้างก็ได้จอดรถจักรยานยนต์ไว้ที่ลานจอดรถตลาดนัดจตุจักร หลังซื้อของใช้ได้ประมาณ 20 นาที ก็ได้เดินออกมาจากห้างเพื่อที่จะขี่รถจักรยานยนต์กลับหอพัก พบว่า รถจักรยานยนต์ได้หายไปแล้ว ตอนแรกก็ไม่เชื่อว่ารถจักรยานยนต์หายจึงได้เดินดูโดยรอบก็ไม่พบรถจักรยานยนต์ของตนเอง จึงคิดว่ารถจักรยานยนต์น่าจะถูกคนร้ายโจรกรรมไปแล้ว ก่อนที่ตนเองจะโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว