xs
xsm
sm
md
lg

ครูเก่าขายกว่าง! บอกรายได้ดีซื้อบ้าน-ซื้อรถได้เลย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เชียงใหม่ - ประเพณีชนกว่างนักสู้แห่งขุนเขาภาคเหนือบูม จนกลายเป็นธุรกิจทำเงินให้หลายคนเป็นกอบเป็นกำ พบอดีตครูโรงเรียนเอกชนหันมาปักหลักยึดอาชีพขาย “ด้วงกว่าง” เผยบางตัวได้ราคาสูงถึง 5 พัน สร้างรายได้แต่ละฤดูกาลหลายแสนบาทจนซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ได้อย่างสบาย

วันนี้ (26 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหน้าฝนตั้งแต่เดือนสิงหาคม ต่อเนื่องไปจนถึงหน้าหนาวในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ทุกปี เป็นห้วงเวลาที่มีการชนกว่าง ซึ่งถือเป็นกีฬาประเพณีพื้นบ้านยอดนิยมหลายจังหวัดในภาคเหนือมาอย่างยาวนาน กระทั่งหลายปีที่ผ่านมาการเลี้ยง-การชนกว่างแพร่หลายมากขึ้น มีการเปิดสนามประลองกำลังระดับจังหวัดขึ้น ทำให้ “ด้วงกว่าง” กลายเป็นสินค้าทำเงินให้หลายคนได้เป็นกอบเป็นกำ

โดยขณะนี้ในเชียงใหม่ก็มีการนำด้วงกว่างมาวางขายกันอย่างมากมาย รวมถึงบริเวณริมถนนรัตนโกสินทร์ หนึ่งในพ่อค้าขายด้วงกว่าง คือ นายเกรียงศักดิ์ มะลิวัลย์ อายุ 36 ปี ชาวพะเยา อดีตครูสอนพละโรงเรียนเอกชน ที่ออกจากการเป็นครู หันมายึดอาชีพค้าขายลูกชิ้นทอด แต่พอถึงฤดูชนกว่างก็จะหันมาขายด้วงกว่างอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แต่ละวันจะมีลูกค้ามาอุดหนุนซื้อไปเลี้ยงเพื่อความสวยงาม และนำไปขึ้นกลอนประลองกำลังต่อสู้กัน

นายเกรียงศักดิ์บอกว่า กว่างที่เขานำมาขายจะมีพ่อค้าที่ไปซื้อจากชาวบ้านแถวเพชรบูรณ์ พิษณุโลก และลำปาง ส่งมาให้ทางรถทัวร์ สัปดาห์ละไม่ต่ำกว่า 2 พันตัว ในราคาต้นทุนตัวละประมาณ 20 บาทเท่านั้น เมื่อได้ด้วงกว่างมาแล้วก็จะคัดแยกหาตัวเก่งๆ นำไปเลี้ยงไว้บนลำอ้อยแล้วนำออกขาย ซึ่งมีทั้งการขายปลีก-ขายส่ง และขายผ่านเฟซบุ๊กที่ให้น้องชายเปิดขึ้นในชื่อ “นักสู้แห่งขุนเขา” ด้วย

นายเกรียงศักดิ์บอกอีกว่า ถ้าเป็นด้วงกว่างทั่วไปก็จะขายในราคาตัวละ 50 บาท ไปจนถึงตัวละ 300 บาท ขึ้นอยู่กับความสามารถของกว่างด้วย หากชนะหลายสนามก็จะราคาสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ถ้าเป็นกว่างหาง หรือกว่างเหลือ อย่างที่นำมาโชว์นี้เป็นกว่างที่หายากมาก ชนะการต่อสู้ประลองกำลังมาแล้วถึง 9 ครั้ง ก็จะมีราคาแพงถึงตัวละ 5 พันบาท เนื่องจากกว่างชนิดนี้มีพละกำลังมาก แม้ว่าคู่ต่อสู้จะตัวใหญ่กว่าก็เอาชนะมาได้

“หลายปีที่ผ่านมาการขายกว่างในแต่ละฤดูกาลสร้างรายได้ให้อย่างเป็นกอบเป็นกำวันละหลายพันบาท จนสามารถซื้อบ้าน ซื้อรถ ได้อย่างสบาย”

นายเกรียงศักดิ์เล่าด้วยว่า ด้วยเหตุนี้เขาจึงชักชวนญาติพี่น้องจากจังหวัดพะเยามายึดอาชีพขายกว่างอีกนับ 10 ราย จนมีรายได้เลี้ยงตนเอง และครอบครัวได้ ส่วนตัวเองก็ลืมงานประจำที่เคยทำมาก่อน พอขายด้วงกว่างเสร็จ กลางคืนก็ไปขายลูกชิ้นทอดตามหน้าสถานบริการ มีรายได้จากการขายลูกชิ้นทอดอีกวันละไม่ต่ำกว่า 2 พันบาท สร้างฐานะได้ในช่วงเวลาไม่กี่ปี ดีกว่าทำงานประจำที่มีรายได้เพียงเดือนละกว่า 1 หมื่นบาทเท่านั้น









กำลังโหลดความคิดเห็น