สถานการณ์น้ำชลบุรียังวิกฤต เร่งทำฝนเทียม ผันน้ำจากบางปะกง

ศูนย์ข่าวศรีราชา-สถานการณ์น้ำ จ.ชลบุรี ยังวิกฤต น้ำในอ่างฯหลักลดน้อยลง จังหวัดเร่งประสานหน่วยฝนหลวงทำฝนเทียม พร้อมผันน้ำจากบางปะกงหวังเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างฯ คาดว่าในปีนี้ไม่น่ามีปัญหา ส่วนปีหน้าต้องวางมาตรการป้องกันด่วน

นายบุญสม ยุติธรรมภิญโญ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานชลบุรี กล่าวว่า ขณะนี้อ่างเก็บน้ำในจังหวัดชลบุรี มีทั้งสิ้น 9 แห่ง แต่เข้าขั้นวิกฤต และเหลือน้ำน้อย

อ่างเก็บน้ำบางพระ เหลือเพียง 14.9 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุน้ำทั้งสิ้น 117 ล้านลูกบาศก์เมตร และอ่างเก็บน้ำหนองค้อ เหลือน้ำเพียง 1.52 ล้านลูกบาศก์เมตร จากที่มีความจุทั้งสิ้นกว่า 21 ล้านลูกบาศก์เมตร

ขณะนี้โครงการชลประทานชลบุรี คาดว่าจะสามารถจ่ายน้ำได้ถึงประมาณวันที่ 5 กันยายนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ได้ประสานไปยังบริษัทอีสท์วอเตอร์ ให้สูบน้ำจากแม่น้ำบางปะกงมากักเก็บที่อ่างฯ บางพระ วันละประมาณ 1 แสนลูกบาศก์เมตร

นอกจากนั้น ชลประทานยังมีโครงการสูบน้ำจากคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง คาดว่าเริ่มสูบได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะสามารถช่วยแก้ไขสถานการณ์ขาดแคลนน้ำได้ในระดับหนึ่ง และคาดว่าไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอน แต่ในปีหน้านั้นจะต้องเร่งวางแผนผันน้ำมากักเก็บไว้ทันที

“คาดว่าภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้ สามารถดูดน้ำจากแม่น้ำบางปะกง และคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต มากักเก็บที่อ่างเก็บน้ำบางพระให้ได้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนขุนด่านประการชล ลงมาช่วยผลักดันน้ำเค็มในลุ่มน้ำบางปะกงเพื่อสามารถสูบน้ำจืดวางไว้ที่อ่างฯ บางพระ ซึ่งคาดว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ในครั้งนี้ได้” นายบุญสม กล่าว

นายบุญสม กล่าวถึงกระแสจะมีการลดปริมาณการจ่ายน้ำในแต่ละพื้นที่นั้นคงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะในช่วงนี้ก็เริ่มมีฝนตกลงสู่อ่างฯ บ้างแล้ว หลังผู้ราชการจังหวัดชลบุรี ได้ประสานกับหน่วยทำน้ำฝนหลวงขึ้นทำฝนเทียมทุกวัน ซึ่งเดิมอัตราการลดลงของน้ำในอ่างฯ บางพระวันละประมาณ 2 แสนเศษลูกบาศก์เมตร ขณะนี้เหลือเพียง 1 แสนลูกบาศก์เมตร แต่ฝนเทียมยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรแต่ยังทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ปัญหาการขาดแคลนน้ำเกิดขึ้น