ระยอง - ประธานเครือข่าย ทสม.ระยอง ส่งหนังสือถึง รมว.ทส. ยับยั้งเผาทำลายงาช้างของกลาง
วันนี้ (24 ส.ค.) นายสุรินทร์ สินรัตน์ ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) จ.ระยอง กล่าวว่า จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทส. สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า พร้อมด้วยตัวแทนจากหลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบงาช้างของกลางที่คดีสิ้นสุด และตกเป็นของแผ่นดินแล้ว 2,155 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งงาช้างท่อนส่วนใหญ่เป็นงาช้างแอฟริกา เพื่อนำไปบดและเผาทำลายเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ในวันที่ 26 สิงหาคมนี้
เครือข่าย ทสม.ระยอง รวม 8 อำเภอ ประกอบด้วย นายสุรินทร์ สินรัตน์ ประธานเครือข่าย อ.เมืองระยอง นายสานิต ล้ำสุทธิ ประธานเครือข่าย อ.นิคมพัฒนา นายนพพร หลำเจริญ ประธานเครือข่าย อ.ปลวกแดง นายปรีชา เย็นใจ ประธานเครือข่าย อ.เขาชะเมา นางกนกพร ปรัชญกุล ประธานเครือข่าย อ.บ้านฉาง นายนเรศ แสงอรุณ ประธานเครือข่าย อ.บ้านค่าย นายศรีชัย กิติกรเศรษฐ์ ประธานเครือข่าย อ.วังจันทร์ และ น.ส.นวลทิพย์ กิจมานะเมตตามิตร์ ประธานเครือข่าย อ.แกลง ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า งาช้างของกลางเหล่านั้นควรเก็บไว้ให้เป็นทรัพย์สินของชาติไทย พร้อมทำหนังสือยับยั้งการเผาทำลายงาช้างของกลาง เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)
นายสุรินทร์ กล่าวว่า เครือข่ายขอเสนอแนวทางดังนี้ 1.พยานวัตถุที่เกิดจากธรรมชาติ เมื่อสิ้นสุดคดีควรตกเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน เช่น ส่งมอบให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเก็บรักษา เพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษาดูงาน ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ต่อประชาชน และเยาวชน 2.การนำไปจำหน่าย หรือการเปิดประมูล โดยการทำรหัสบาร์โค้ดให้แก่ผู้ครอบครอง เพื่อเป็นประโยชน์ในการควบคุม ติดตามตรวจสอบ และนำรายได้เข้าแผ่นดิน เนื่องจากการเกิดของทรัพยากรธรรมชาติช้ามาก แต่การทำลายง่ายมาก 3.หากเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศที่จะต้องทำลายหลังคดีสิ้นสุด เห็นควรส่งคืนประเทศนั้นเพื่อให้แต่ละประเทศดำเนินการต่อไป
วันนี้ (24 ส.ค.) นายสุรินทร์ สินรัตน์ ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) จ.ระยอง กล่าวว่า จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทส. สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า พร้อมด้วยตัวแทนจากหลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบงาช้างของกลางที่คดีสิ้นสุด และตกเป็นของแผ่นดินแล้ว 2,155 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งงาช้างท่อนส่วนใหญ่เป็นงาช้างแอฟริกา เพื่อนำไปบดและเผาทำลายเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ในวันที่ 26 สิงหาคมนี้
เครือข่าย ทสม.ระยอง รวม 8 อำเภอ ประกอบด้วย นายสุรินทร์ สินรัตน์ ประธานเครือข่าย อ.เมืองระยอง นายสานิต ล้ำสุทธิ ประธานเครือข่าย อ.นิคมพัฒนา นายนพพร หลำเจริญ ประธานเครือข่าย อ.ปลวกแดง นายปรีชา เย็นใจ ประธานเครือข่าย อ.เขาชะเมา นางกนกพร ปรัชญกุล ประธานเครือข่าย อ.บ้านฉาง นายนเรศ แสงอรุณ ประธานเครือข่าย อ.บ้านค่าย นายศรีชัย กิติกรเศรษฐ์ ประธานเครือข่าย อ.วังจันทร์ และ น.ส.นวลทิพย์ กิจมานะเมตตามิตร์ ประธานเครือข่าย อ.แกลง ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า งาช้างของกลางเหล่านั้นควรเก็บไว้ให้เป็นทรัพย์สินของชาติไทย พร้อมทำหนังสือยับยั้งการเผาทำลายงาช้างของกลาง เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)
นายสุรินทร์ กล่าวว่า เครือข่ายขอเสนอแนวทางดังนี้ 1.พยานวัตถุที่เกิดจากธรรมชาติ เมื่อสิ้นสุดคดีควรตกเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน เช่น ส่งมอบให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเก็บรักษา เพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษาดูงาน ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ต่อประชาชน และเยาวชน 2.การนำไปจำหน่าย หรือการเปิดประมูล โดยการทำรหัสบาร์โค้ดให้แก่ผู้ครอบครอง เพื่อเป็นประโยชน์ในการควบคุม ติดตามตรวจสอบ และนำรายได้เข้าแผ่นดิน เนื่องจากการเกิดของทรัพยากรธรรมชาติช้ามาก แต่การทำลายง่ายมาก 3.หากเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศที่จะต้องทำลายหลังคดีสิ้นสุด เห็นควรส่งคืนประเทศนั้นเพื่อให้แต่ละประเทศดำเนินการต่อไป
