ชัยนาท - นักวิชาการสำนักงานที่ดินจังหวัดชัยนาท ใช้เวลาว่างหลังเลิกงาน และวันหยุด เพาะเลี้ยง และคัดสรรสุดยอดไก่ชนสายพันธุ์พม่าสวนมะนาวสายเก่า เป็นอาชีพเสริม เผยแม้เป็นเรื่องที่ยากต้องศึกษาเรียนรู้ตลอดเวลา แต่เป็นงานอดิเรกที่ชอบ และสร้างรายได้เพิ่มให้ครอบครัวปีละกว่า 1 แสนบาท
นายพรชัย ทาทับ อายุ 40 ปี อาศัยอยู่ที่ตำบลบ่อแร่ อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท เป็นข้าราชการตำแหน่งนักวิชาการที่ดินปฏิบัติการ สำนักงานที่ดินจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องการเพาะเลี้ยงไก่ชนจากหนังสือ และสอบถามผู้มีประสบการณ์จากปศุสัตว์จังหวัด และเพื่อนๆ นำแนวความรู้มาคิด และประยุกต์ใช้จนสามารถเพาะเลี้ยงไก่ชนสายพันธุ์พม่าสวนมะนาวสายเก่า พัฒนาสายพันธุ์จนมีลักษณะเด่นในเชิงชน โดยทำเป็นงานอดิเรกมากว่า 8 ปี สร้างรายได้เสริมปีละกว่า 1 แสนบาท โดยจะใช้เวลาวันธรรมดาดูแลไก่ช่วงเช้า-เย็น
ส่วนวันหยุดจะดูแลทั้งวัน และบางวันจะออกไปหาประสบการณ์เพื่อดูว่าไก่ที่ใช้ชนกันเป็นแบบไหน แล้วศึกษาว่าเชิงชนไหนชนะเชิงชนไหน การแพ้ชนะเกิดจากอะไร เก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ จดบันทึกไว้แล้วนำมาปรับปรุงของเราเพื่อให้ไก่ของเรามีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจะไปตามสนามชนไก่ชื่อดัง และหมายตาไก่ที่เราชอบไว้แม้ว่าตัวนั้นจะแพ้ก็ตาม หรือรอจนกว่าจะปลดระวางแล้วจะซื้อได้ในราคาถูกลง หากทำพ่อพันธุ์ได้จะขอซื้อมาทำพ่อพันธุ์ เพราะเราไม่ได้นำไก่ไปชนเชิงกีฬา แต่เป็นคนผลิต
นายพรชัย ทาทับ กล่าวต่อว่า การเลี้ยงไก่ชนในเชิงการกีฬา หรือเราเรียกว่าผลิตอุปกรณ์กีฬา ต้องมีการคัดสายพันธุ์ ทั้งพ่อพันธุ์ และแม่พันธุ์ หากเลี้ยงแบบชั่งกิโลขาย กิโลกรัมละ 70-80 บาท ถ้าเลี้ยงขายเป็นไก่กีฬาจะทำให้มีมูลค่าตัวละกว่าหมื่นบาท ปัจจุบัน พ่อพันธุ์ตัวละเป็นล้านบาทที่มีขายกันในวงการ เริ่มต้นคือ ต้องคัดสายพันธุ์ บริหารจัดการ จัดระบบตามคำแนะนำของปศุสัตว์จังหวัดชัยนาทที่ให้การสนับสนุน
เมื่อเปรียบเทียบกับการทำนา หรือหากทำนาด้วย เลี้ยงไก่ควบคู่ไปด้วยจะเป็นการสร้างรายได้เสริมขึ้นมา แล้วแต่ว่าคนเลี้ยงจะชอบไก่สายพันธุ์แบบไหน เช่น ไก่พันธุ์ไทย ไก่ปากก๋อย
“ส่วนผมเองเลี้ยงไก่พม่าสวนมะนาวสายเก่า ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดิมอยู่ที่อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ ได้นำมาพัฒนาสายพันธุ์ต่อมาเรื่อยๆ ลักษณะเด่น คือ เชิงชนจะใช้เดือยสองเล่มแทงซอก ตีถูกจุดซ้ำๆ จะขายได้ราคา” นายพรชัย กล่าว
นายพรชัย กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องตลาดขณะนี้ผลิตไม่พอขาย เราคัดเกรดตามที่ลูกค้าต้องการ ส่วนการทำให้ไก่แข็งแรง และนำไปชนในเชิงกีฬาก็แล้วแต่ลูกค้า ส่วนเราเป็นผู้พัฒนาสายพันธุ์ แล้วยังใช้เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ใช้กับคนเข้ามาใช้กับไก่ชน เช่น ฉีดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน แคลเซียม ยาบำรุงต่างๆ
ส่วนการดูแลไก่ที่เลี้ยงมีการให้วัคซีนตามตารางของกรมปศุสัตว์ ให้อาหารเสริม และทำความสะอาดโรงเรือนอย่างสม่ำเสมอ หากจะดูด้านการตลาดจะมีลูกค้าประจำอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันยังผลิตไม่พอส่งให้ลูกค้า โดยขนาดของไก่ที่ส่งคือ ไก่ที่โตเต็มตัว อายุ 10 เดือนขึ้นไป และมีการคัดแล้ว ทั้งเชิงชน รูปร่างลักษณะ เดือย หนามขน ความแข็งแกร่ง โครงสร้าง ลูกตี สายพันธุ์ของเราชัดเจน คือ ไก่พม่าสวนมะนาว (พม่าง่อน) เชิงชนไม่หวือหวามาก แต่ออกแข้งได้รุนแรง จิตใจเหนียวแน่น ซึ่งไก่ที่เลี้ยงทุกตัวคัดแล้วไม่ใช่ใช้ได้ทุกตัว สำหรับตัวที่คัดเลือกไม่ผ่านจะขายเป็นไก่เนื้อบริโภค
อย่างไรก็ตาม จะพยายามพัฒนาสายพันธุ์ให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ราคาที่ขายปกติ 2,000-10,000 บาท เคยจำหน่ายได้สูงสุดตัวละ 15,000 บาท เป็นไก่ที่ชนได้ทั้งไก่เชิงและไก่พม่า และจากที่เคยสืบทราบมา ยังมีการขายต่อๆ ไปราคากว่าแสนบาท
นายพรชัย ทาทับ อายุ 40 ปี อาศัยอยู่ที่ตำบลบ่อแร่ อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท เป็นข้าราชการตำแหน่งนักวิชาการที่ดินปฏิบัติการ สำนักงานที่ดินจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องการเพาะเลี้ยงไก่ชนจากหนังสือ และสอบถามผู้มีประสบการณ์จากปศุสัตว์จังหวัด และเพื่อนๆ นำแนวความรู้มาคิด และประยุกต์ใช้จนสามารถเพาะเลี้ยงไก่ชนสายพันธุ์พม่าสวนมะนาวสายเก่า พัฒนาสายพันธุ์จนมีลักษณะเด่นในเชิงชน โดยทำเป็นงานอดิเรกมากว่า 8 ปี สร้างรายได้เสริมปีละกว่า 1 แสนบาท โดยจะใช้เวลาวันธรรมดาดูแลไก่ช่วงเช้า-เย็น
ส่วนวันหยุดจะดูแลทั้งวัน และบางวันจะออกไปหาประสบการณ์เพื่อดูว่าไก่ที่ใช้ชนกันเป็นแบบไหน แล้วศึกษาว่าเชิงชนไหนชนะเชิงชนไหน การแพ้ชนะเกิดจากอะไร เก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ จดบันทึกไว้แล้วนำมาปรับปรุงของเราเพื่อให้ไก่ของเรามีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจะไปตามสนามชนไก่ชื่อดัง และหมายตาไก่ที่เราชอบไว้แม้ว่าตัวนั้นจะแพ้ก็ตาม หรือรอจนกว่าจะปลดระวางแล้วจะซื้อได้ในราคาถูกลง หากทำพ่อพันธุ์ได้จะขอซื้อมาทำพ่อพันธุ์ เพราะเราไม่ได้นำไก่ไปชนเชิงกีฬา แต่เป็นคนผลิต
นายพรชัย ทาทับ กล่าวต่อว่า การเลี้ยงไก่ชนในเชิงการกีฬา หรือเราเรียกว่าผลิตอุปกรณ์กีฬา ต้องมีการคัดสายพันธุ์ ทั้งพ่อพันธุ์ และแม่พันธุ์ หากเลี้ยงแบบชั่งกิโลขาย กิโลกรัมละ 70-80 บาท ถ้าเลี้ยงขายเป็นไก่กีฬาจะทำให้มีมูลค่าตัวละกว่าหมื่นบาท ปัจจุบัน พ่อพันธุ์ตัวละเป็นล้านบาทที่มีขายกันในวงการ เริ่มต้นคือ ต้องคัดสายพันธุ์ บริหารจัดการ จัดระบบตามคำแนะนำของปศุสัตว์จังหวัดชัยนาทที่ให้การสนับสนุน
เมื่อเปรียบเทียบกับการทำนา หรือหากทำนาด้วย เลี้ยงไก่ควบคู่ไปด้วยจะเป็นการสร้างรายได้เสริมขึ้นมา แล้วแต่ว่าคนเลี้ยงจะชอบไก่สายพันธุ์แบบไหน เช่น ไก่พันธุ์ไทย ไก่ปากก๋อย
“ส่วนผมเองเลี้ยงไก่พม่าสวนมะนาวสายเก่า ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดิมอยู่ที่อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ ได้นำมาพัฒนาสายพันธุ์ต่อมาเรื่อยๆ ลักษณะเด่น คือ เชิงชนจะใช้เดือยสองเล่มแทงซอก ตีถูกจุดซ้ำๆ จะขายได้ราคา” นายพรชัย กล่าว
นายพรชัย กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องตลาดขณะนี้ผลิตไม่พอขาย เราคัดเกรดตามที่ลูกค้าต้องการ ส่วนการทำให้ไก่แข็งแรง และนำไปชนในเชิงกีฬาก็แล้วแต่ลูกค้า ส่วนเราเป็นผู้พัฒนาสายพันธุ์ แล้วยังใช้เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ใช้กับคนเข้ามาใช้กับไก่ชน เช่น ฉีดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน แคลเซียม ยาบำรุงต่างๆ
ส่วนการดูแลไก่ที่เลี้ยงมีการให้วัคซีนตามตารางของกรมปศุสัตว์ ให้อาหารเสริม และทำความสะอาดโรงเรือนอย่างสม่ำเสมอ หากจะดูด้านการตลาดจะมีลูกค้าประจำอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันยังผลิตไม่พอส่งให้ลูกค้า โดยขนาดของไก่ที่ส่งคือ ไก่ที่โตเต็มตัว อายุ 10 เดือนขึ้นไป และมีการคัดแล้ว ทั้งเชิงชน รูปร่างลักษณะ เดือย หนามขน ความแข็งแกร่ง โครงสร้าง ลูกตี สายพันธุ์ของเราชัดเจน คือ ไก่พม่าสวนมะนาว (พม่าง่อน) เชิงชนไม่หวือหวามาก แต่ออกแข้งได้รุนแรง จิตใจเหนียวแน่น ซึ่งไก่ที่เลี้ยงทุกตัวคัดแล้วไม่ใช่ใช้ได้ทุกตัว สำหรับตัวที่คัดเลือกไม่ผ่านจะขายเป็นไก่เนื้อบริโภค
อย่างไรก็ตาม จะพยายามพัฒนาสายพันธุ์ให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ราคาที่ขายปกติ 2,000-10,000 บาท เคยจำหน่ายได้สูงสุดตัวละ 15,000 บาท เป็นไก่ที่ชนได้ทั้งไก่เชิงและไก่พม่า และจากที่เคยสืบทราบมา ยังมีการขายต่อๆ ไปราคากว่าแสนบาท