เชียงราย - ประธาน 3 องค์กรเอกชนเชียงรายร่วมประฌามผู้ก่อเหตุวางระเบิดที่ราชประสงค์ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และนายกรัฐมนตรี กอบกู้สถานการณ์กลับมาให้เร็วที่สุด ด้านเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและกวดขันตรวจตราสถานที่เสี่ยงอย่างเข้มงวด
วันนี้ (19 ส.ค.) ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย นายอนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้า จ.เชียงราย นายพละวัต ตันศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.เชียงราย นายกิตติ ทิศสกุล นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย นำสมาชิกจำนวนหนึ่งเข้าพบนายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เพื่อยื่นหนังสือแสดงความเสียใจและร่วมประณามผู้กระทำเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ โดยทั้ง 2 หน่วยงานพร้อมสมาชิกได้ยื่นหนังสือมีเนื้อหาว่า
จากเหตุการณ์ดังกล่าวจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากนั้น ทางหอการค้า สภาอุตสาหกรรม จ.เชียงราย และสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยว จ.เชียงราย ขอร่วมไว้อาลัย แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมทั้งขอประณามผู้กระทำการครั้งนี้ว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม ทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ นอกจากนี้ยังกระทบต่อสภาวะทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะการท่องเที่ยว
ตัวแทน 3 องค์กรจึงขอร่วมส่งกำลังใจไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ในขณะนี้ ได้ร่วมกันดำเนินการอย่างเต็มความสามารถ เพื่อช่วยกันกอบกู้สถานการณ์กลับมาสู่ภาวะปกติ และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสอบสวนข้อเท็จจริง หาผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป ซึ่งทางผู้ว่าราชการ จ.เชียงรายได้รับจะนำเสนอไปยังรัฐบาล รวมทั้งแจ้งว่าในปัจจุบันทุกพื้้นที่ได้รับคำสั่งให้มีการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเฝ้าระวังในพื้นที่ที่สำคัญอย่างเข้มงวดแล้ว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า วันเดียวกันทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกเชียงราย (กกล.รส.จทบ.ชร.) ร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย และเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง ได้จัดให้มีการตรวจสอบภายในและโดยรอบท่าอากาศยาน ขณะที่นายสมชัย รุ่งสาคร นายอำเภอแม่สาย ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชายแดนไทย-พม่า เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการป้องกันและเฝ้าระวัง
ด้านนายอิทธิพล บุญอารีย์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย แจ้งว่าทางท่าอากาศยานมีมาตรการในการตรวจผู้โดยสารอย่างเข้มงวดอยู่แล้วตามมาตรฐานการบิน แต่หลังเกิดเหตุการณ์ก็ได้เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น ทั้งผู้ที่เดินทางเข้าและออกรวมถึงผู้เดินทางไปส่งผู้โดยสาร และการตรวจกระเป๋าต้องสงสัยที่วางไว้โดยไม่มีเจ้าของ และตรวจตรารถยนต์ที่เข้ามาภายในท่าอากาศยานด้วย