xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ภ.7 สั่งระดมกำลังคุมเข้มหัวหิน ใช้มาตรการปลอดภัยสูงสุดในพิธี “บวงสรวงอุทยานราชภักดิ์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 สั่งปรับแผนคุมเข้มรักษาความปลอดภัยในอำเภอหัวหิน เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ สั่งระดมเจ้าหน้าที่ และเสริมกำลังอาสมัครจากทุกภาคส่วน พร้อมส่งชุดอินทรีย์ 7 ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ เตรียมพร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดในการปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรี ที่อุทยานราชภักดิ์

วันนี้ (18 ส.ค.) ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) ได้เรียกประชุมรองผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 7 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหิน ผุ้กำกับการตำรวจภูธรชะอำ ตลอดจนชุดสอบสวนสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และหัวหน้าสถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อวางมาตรการคุมเข้มรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว ภายหลังจากเกิดเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร

รวมทั้งซักซ้อมทำความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธีบวงสรวงมหามังคลาภิเษก พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม ณ มณฑลพิธีอุทยานราชภักดิ์ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ซึ่งได้ยืนยันแล้วว่า นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาปฏิบัติภารกิจตามกำหนดการเดิม

พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ภายหลังจากเกิดระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ ทำให้ต้องมีการทบทวน และเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีจุดที่น่าสนใจ และมีความแตกต่างไปจากเดิม คือ ผู้ก่อเหตุมีความตั้งใจที่จะเอาชีวิตนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวเอเชีย โดยในพื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 7 แม้ในด้านการข่าวจะยังปกติ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวเอเชียให้ความสนใจเดินทางเข้ามา คือ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และอำเภอชะอำจังหวัดเพชรบุรี

“ในวันนี้จึงต้องมีการเข้ามาดูมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ที่เคยวางไว้ ซึ่งเดิมมุ่งเน้นไปที่ชาวยุโรป หรือฝรั่งเป็นหลัก แต่ตอนนี้สถานการณ์มีความเปลี่ยนแปลงเกิดเหตุต่อชาวเอเชีย โดยเฉพาะคนจีน ดังนั้น จะต้องมีการทบทวน และเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยจะต้องมีการวางมาตรการในสถานที่พัก แหล่งท่องเที่ยว และแหล่งรับประทานอาหาร” ผบช.ภ.7 กล่าว

พร้อมกล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้สิ่งสำคัญคือจะต้องเพิ่มช่องทางการสื่อสารให้เข้าถึงมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งข่าวจากอาสาสมัคร หรือกลุ่มไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้าง มัคคุเทศก์ ผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรม ล่ามแปลต่างๆ รวมทั้งจะต้องสร้างความเชื่อมั่น และความั่นใจให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอำเภอหัวหิน ซึ่งถือเป็นหัวใจหลัก จะต้องมีการระดมสรรพกำลัง เครื่องมือ และเครือข่ายต่างๆ มาร่วมกัน

ล่าสุด ได้ชักชวนให้กลุ่มอาสาสมัครวิทยุสมัครเล่น หรือวิทยุเครื่องแดง เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครร่วมกับทางตำรวจด้วย รวมทั้งสั่งกำชับฝ่ายสืบสวนสอบสวนให้เร่งสืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ซึ่งได้สั่งการเพิ่มชุดปฏิบัติการพิเศษของตำรวจภูธรภาค 7 หรืออินทรีย์ 7 เข้ามาทำงานร่วมด้วย

“ในส่วนของการเตรียมพร้อมการรักษาความปลอดภัยในพิธีบวงสรวง และมหามังคลาภิเษกพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัติริย์ไทย ที่อุทยานราชภักดิ์ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธีนั้น มีการเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด รวมทั้งได้ประสานงานกับฝ่ายทหารอย่างใกล้ชิด” ผบช.ภ.7 กล่าว

เมื่อถามว่าขณะนี้มีรายงานว่ามีการจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อเหตุวางระเบิดได้ที่อำเภอบางสะพานน้อย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานในเรื่องนี้ และจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน





กำลังโหลดความคิดเห็น