xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.ยุติธรรมจี้ “วอเตอร์ฟรอนท์” 30 วัน หลังคดีไม่คืบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวศรีราชา - กมธ.การกฎหมายกระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จี้คดีวอเตอร์ฟรอนท์ หลังพบไม่คืบ พร้อมสั่งผู้เกี่ยวข้องเร่งรัดคดีใน 30 วัน ด้านคำสั่งระงับการก่อสร้าง สผ. ระบุเป็นหน้าที่ของเมืองพัทยาในการพิจารณาอนุมัติ เพราะเป็นเรื่องโครงสร้างไม่เกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม

วันนี้ (18 ส.ค.) พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ อนุกรรมาธิการกิจการการกฎหมายกระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางมาเข้าร่วมประชุมกับคณะทำงานและผู้เกี่ยวข้องเพื่อหารือ และติดตามการตรวจสอบปัญหาของโครงการวอเตอร์ฟรอนท์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนซ์ บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนว่า โครงการดังกล่าวมีการดำเนินการตรวจสอบ และดำเนินคดีที่ล่าช้า ส่งผลกระทบต่อการลงทุน

อีกทั้งยังมีกรณีของการร้องเรียนปัญหามากมายเกี่ยวกับเรื่องของเอกสารสิทธิครอบครองการบุกรุกที่สาธารณะ และอื่นๆ จนเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน โดยมี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม

พล.ต.ท.วิบูลย์ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องการก่อสร้างโครงการวอร์เตอร์ฟรอนท์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนซ์ มีการร้องเรียนอย่างต่อเนื่องไปยังหลายหน่วยงาน ทั้งเรื่องของการก่อสร้างต่อเติมอาคารผิดแบบ เรื่องของการบุกรุกที่สาธารณะ ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งแวดล้อม และอื่นๆ ซึ่งจนถึงปัจจุบันโครงการดังกล่าวก็ยังถูกระงับการก่อสร้างจนส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อการลงทุน และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนว่าจะจัดการอย่างไร

ล่าสุด ทาง กมธ.การกฎหมายกระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จึงได้หยิบยกกรณีดังกล่าวเพื่อติดตาม และตรวจสอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยมีการประชุมร่วมเพื่อรับฟังข้อมูล และพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหา

โดยเฉพาะกรณีของการดำเนินการทางกฎหมายที่ล่าช้า ซึ่งพบว่า ปัจจุบันเมืองพัทยาได้ออกคำสั่งระงับการก่อสร้างไว้เป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีความผิดในส่วนของกฎหมายควบคุมอาคาร ด้วยกรณีของการก่อสร้างไม่ตรงแบบที่ได้รับอนุญาต พร้อมออกคำสั่งให้เจ้าของอาคารยื่นขออนุญาตแก้ไข และขอรับความเห็นชอบจากหน่วยงานสิ่งแวดล้อมก่อนจะมีการนำเสนอให้คณะกรรมการสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมเป็นผู้พิจารณาความเห็นชอบ

กระทั่งล่าสุด ทาง สผ.ได้ลงความเห็นให้เมืองพัทยา ในฐานะเจ้าพนักงานส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการพิจารณาด้วยระบุว่า การเปลี่ยนแปลงการก่อสร้างโครงการดังกล่าวไม่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม และเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของเมืองพัทยาโดยตรง โดยจะมีหนังสือยืนยันเพื่อแจ้งผลมายังจังหวัดชลบุรี และเมืองพัทยาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม โครงการนี้มีปัญหาร้องเรียนในหลายกรณีที่เกี่ยวเนื่องต่องานทางด้านกฎหมาย จึงมีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และรับผิดชอบด้านคดีไปดำเนินการสอบสวน ตรวจสอบและเร่งรัดให้แล้วเสร็จใน 30 วัน ทั้งกรณีของปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะ เรื่องของการถ่ายโอนหุ้นของบริษัท เรื่องของกรรมสิทธิ์ และปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับการดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรมจนส่งผลกระทบต่อการลงทุน เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อแนวทางการปฏิบัติต่อไป

ด้าน นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา ระบุว่า เมืองพัทยาทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างถึงที่สุด เพียงแต่โครงการดังกล่าวมีปัญหาเรื่องของการก่อสร้างผิดจากแบบที่ขออนุญาตจึงต้องระงับตามขั้นตอนก่อนแจ้งให้เจ้าของอาคารยื่นขออนุญาต ซึ่งก็ต้องผ่านคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมตามขั้นตอน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อมีมติระบุให้เมืองพัทยาเป็นผู้ดำเนินการพิจารณาความเห็นชอบในการต่อใบอนุญาตการก่อสร้าง โดยระบุว่า เป็นเรื่องของกฎหมายควบคุมอาคารก็คงต้องว่ากันตามกฎหมาย เพียงแต่คงต้องรอผลการดำเนินคดีในส่วนของการร้องเรียนให้แล้วเสร็จเสียก่อน เพื่อเป็นบรรทัดฐาน และแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน ถูกต้อง และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
กำลังโหลดความคิดเห็น