จันทบุรี-ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี นำผู้ต้องหาอุ้มฆ่าชิงทรัพย์เจ้าอาวาสวัดโสมนาราม และนำไปหมกไร่มันสำปะหลังมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน สารภาพก่อเหตุมาแล้วหลายจังหวัด
วันนี้ (17 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พ.ต.อ.มานะ อินพิทักษ์ พ.ต.อ.เสรีย์ นาประดิษฐ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้นำตัว นายไพรสณท์ เพ็ญเสวี อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุอุ้มฆ่าชิงทรัพย์พร้อมเงินผ้าสามัคคีกว่า 1 แสนบาท ของพระสุพัฒน กิจอุดม เจ้าอาวาสวัดโสมนาราม ก่อนที่ผู้ต้องหารายนี้จะนำศพ พระสุพัฒน กิจอุดม ไปหมกไร่มันสำปะหลัง
ทั้งนี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2558 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายไพรสณท์ เพ็ญเสวี ผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ก่อเหตุจริง จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการปิดล้อมบ้านพักของ นายไพรสณท์ เพ็ญเสวี เพื่อให้ผู้ต้องหารายนี้ได้มอบตัว แต่นายไพรสณท์ เพ็ญเสวี กับไม่ยอมมอบตัว และได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้อาวุธปืนพกของตนเองยิงตัวเองเข้าที่ขมับแต่ไม่เสียชีวิต จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำตัว นายไพรสณท์ เพ็ญเสวี ส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลระยอง จนอาการดีขึ้นก่อนส่งตัวมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี
กระทั่งอาการของ นายไพรสณท์ เพ็ญเสวี ดีขึ้นเป็นลำดับ และสามารถที่จะตอบข้อซักกถามต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ดังนั้น ในวันนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี จึงได้นำตัว นายไพรสณท์ เพ็ญเสวี มาทำการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทุกแขนงในจังหวัดจันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมเข้ม เพราะหวั่นชาวบ้านที่ทราบข่าวจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์
เบื้องต้น นายไพรสณท์ ให้การยอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุอุ้มฆ่าชิงทรัพย์ พระสุพัฒน กิจอุดม ก่อนนำศพไปหมกไร่มันสำปะหลัง เพียงคนเดียว โดยไม่มีผู้ที่เกี่ยวข้อง และผู้ที่มีส่วนรู้เห็นในการก่อเหตุในครั้งนี้แต่อย่างใด
นอกจากนี้ นายไพรสณท์ ยังให้การยอมรับว่า ได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว 3-4 ครั้ง ในพื้นที่หลายจังหวัด โดยจะอาศัยในช่วงก่อเหตุที่มีงานทอดผ้าป่าสามัคคี เนื่องจากในช่วงนั้นแต่ละวัดจะมีเงินจากญาติโยม และประชาชนมาทำบุญกันมาก ก่อนวางแผนเข้าไปตีสนิทกับพระลูกวัด หรือเจ้าอาวาสโดยการซื้อไวตามิ้ลค์ และน้ำอัดลมไปถวาย
จากนั้น ฉวยโอกาสที่ไม่มีเด็กวัด คณะกรรมการวัด ศิษยานุศิษย์ หรือญาติโยมอยู่ที่วัดเข้าก่อเหตุอุ้มขึ้นรถพร้อมกับเงิน หากพระลูกวัด หรือเจ้าอาวาสวัดขัดขืนก็จะฆ่าทิ้ง ส่วนเงินที่ได้ก็จะนำไปเข้าบ่อนบริเวณชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด และจังหวัดอื่นๆ ต่อไป
ทั้งนี้ ทางตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ยังไม่สามารถที่จะนำตัว นายไพรสณท์ เพ็ญเสวี ผู้ต้องหารายนี้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุได้ เนื่องจากสภาพร่างกายของ นายไพรสณท์ ต้องมีการพักฟื้นอีกระยะหนึ่ง รวมทั้งตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี จะต้องมีการประเมินความปลอดภัยของผู้ต้องหารายนี้ด้วยว่า ถ้านำผู้ต้องหารายนี้ไปทำแผนแล้วจะปลอดภัยหรือไหมอย่างไร เนื่องจากชาวบ้าน ศิษยานุศิษย์ ชาวบ้าน และญาติพี่น้องมีความโกรธแค้นต่อผู้ต้องหารายนี้เป็นอย่างมากอีกด้วย