จันทบุรี - ตำรวจภูธรจันทบุรีวางมาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่เจ้าอาวาส และพระในพื้นที่จันทบุรี พร้อมส่งตำรวจดูแล 1 วัด 1 ตำรวจ หลังเจ้าอาวาส และพระหวาดวิตกกังวลต่อเหตุการณ์คนร้ายอุ้มฆ่าเจ้าอาวาสฝังไร่มันสำปะหลัง
จากเหตุการณ์ที่ พระสุพัฒน กิจอุดม เจ้าอาวาสวัดโสมนาราม หรือวัดชำโสม ถูกคนร้ายอุ้มฆ่าฝังไร่มันสำปะหลัง พร้อมเงินผ้าป่าสามัคคีกว่า 1 แสนบาท ที่เป็นข่าวใหญ่ พบว่า วัดในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี โดยเฉพาะเจ้าอาวาส และพระลูกวัดต่างวิตกกังวลต่อคดีนี้เป็นอย่างมาก และไม่กล้าที่จะอยู่วัดโดยเพียงลำพัง ทำให้ในเรื่องนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี จึงมีนโยบายในการดูแลความปลอดภัยให้แก่เจ้าอาวาส และพระลูกวัดทั่วจังหวัดจันทบุรี อย่างเข้มงวด โดยการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยให้แก่เจ้าอาวาส และพระลูกวัด คือ 1 วัด ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย เพื่อให้เจ้าอาวาส และพระลูกวัดในจังหวัดจันทบุรีคลายความวิตกกังวลลง
พ.ต.อ.มานะ อินพิทักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการดูแลพระสงฆ์ในจังหวัดจันทบุรี โดยได้มีการประชุมหารือ และกำหนดมาตรการ โดยกำหนดให้ผู้กำกับการ รองผู้กำกับการไปพบพระทุกวัด เพื่อประสานกำหนดการร่วมกันในการประสานเหตุ
โดยทางตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 1 วัด 1 ตำรวจ และตำรวจที่เข้าไปประสานกับทางวัดก็จะมีมาตรการกำหนดต่อวัด ว่า มาตรการที่จะมีการป้องกันจะทำอย่างไร เช่น กล้องวงจรปิดภายในวัดโดยส่วนใหญ่มักจะไม่มี ทั้งนี้ จึงต้องมีการขอความร่วมมือต่อทางวัดว่า วัดไหนมีศักยภาพในการติดกล้องวงจรปิดได้ก็ขอให้มีการติดกล้องวงจรปิดไว้เพื่อเป็นมาตรการในการเฝ้าระวังเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นอีกได้
รวมทั้งพระที่มีญาติโยมมาติดต่อต่างๆ ก็จะต้องมีพระลูกวัด หรือโยมคอยอยู่เป็นเพื่อนเจ้าอาวาส และพระลูกวัดในการเข้ามาติดต่อทำธุระอะไรต่างๆ ที่วัดด้วย ซึ่งเจ้าอาวาส และพระสงฆ์ควรหลีกเหลี่ยงการพบปะโดยลำพัง
ขณะที่ พระศรีศาสนโมลี รองเจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี และเจ้าอาวาสวัดโค้งสนามเป้า กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อ พระสุพัฒน กิจอุดม เจ้าอาวาสวัดโสมนาราม ไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นก็สร้างความสะเทือนใจ และความรู้สึกของญาติโยมที่มีความศรัทธาต่อพระด้วย
“หลังเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทางคณะสงฆ์มีความกระตือรือร้นในการระมัดระวังตัวเกี่ยวกับผู้ที่เข้ามาติดต่ออะไรต่างๆ ภายในวัดมากขึ้น ทั้งนี้ หากเจ้าอาวาส หรือพระลูกวัดไม่รู้จักก็จะต้องดูความประสงค์ดูหลักฐาน บัตรประชาชนในเบื้องต้นก่อน ซึ่งทางคณะสงฆ์ก็จะมีการบอกต่อๆ กันไปต่อพระสังฆาธิการ เจ้าคณะ รองเจ้าคณะจังหวัด และเจ้าอาวาส ตลอดจนพระลูกวัด เวลาญาติโยมมาหาก็จะต้องมีพระลูกวัด หรือเณร เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนพระด้วย ไม่ควรที่จะให้เจ้าอาวาส หรือพระสงฆ์อยู่กับญาติโยมโดยลำพัง” พระศรีศาสนโมลี รองเจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี กล่าว และว่า
นอกจากนี้ ชาวบ้าน คณะกรรมการวัดก็จะต้องช่วยกันดูเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าอาวาส และพระสงฆ์ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำอีกด้วย