จันทบุรี - เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะพุ่งชนท้ายรถสองแถวรับจ้างใน จ.จันทบุรี จนพุ่งชนราวสะพาน บริเวณถนนสายจันทบุรี-ตราดฝั่งขาออกทั้ง 2 คัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ได้รับบาดเจ็บอีก 8 ราย
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (15 ส.ค.) ร.ต.อ.ชยพัทธ์ สุขสมบูรณ์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะพุ่งชนท้ายรถสองแถวรับจ้าง จนเสียหลักพุ่งชนราวสะพานบริเวณถนนสายจันทบุรี-ตราด ฝั่งขาออกทั้ง 2 คัน ในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ 8 ราย หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี และเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี นำอุปกรณ์ตัดถ่างรุดไปให้การช่วยเหลือ
ไปถึงพบเจ้าหน้าที่กำลังใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยกันงัดซากรถ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี และโรงพยาบาลสิริเวช
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรถสองแถวรับจ้าง สายจันทบุรี-พลิ้ว สีเหลือง หมายเลขทะเบียน 10-0276 จันทบุรี ป้ายเหลือง สภาพด้านหลังหลุดออกมา และยังชนอัดเข้ากับราวสะพานคลองนาป่าข้างทาง เบื้องต้น ยังไม่ทราบชื่อคนขับเนื่องจากยังไม่ได้สติ โดยที่บริเวณใต้ท้องรถยังพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย เบื้องต้น ยังไม่ทราบชื่อเช่นกัน เนื่องจากไม่พบหลักฐานว่าเป็นใคร
ใกล้กันพบรถยนต์กระบะนิสสัน นาวาร่า สีขาว หมายเลขทะเบียน ถห 7559 กรุงเทพมหานคร สภาพังยับเยิน ทราบชื่อคนขับคือ นายอภิชัย ป้อมดี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/97 หมู่ที่ 3 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้า พบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และอีก 5 ราย ได้รับบาดเจ็บหัวแตก และแขน ขาหัก
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า รถยนต์กระบะได้ขับตีคู่มากับรถสองแถวรับจ้าง เพื่อมุ่งหน้าไปยังอำเภอขลุง แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง และมีฝนตกลงมา รถยนต์กระบะได้วิ่งกินเลนเข้าไปหารถสองแถวรับจ้าง ก่อนจะพุ่งชนท้ายจนทำให้รถสองแถวเสียหลักหมุนไปชนกับราวสะพาน ส่งผลให้คนขับ และผู้โดยสารที่นั่งมาในรถได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
ส่วนรถยนต์กระบะ หลังพุ่งชนท้ายรถสองแถวรับจ้างแล้วได้เสียหลักพุ่งชนราวสะพานเช่นกัน ทำให้คนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบปากคำคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป
