เดินเท้าปูพรมค้นหาเจ้าอาวาสวัดโสมนารามหายตัวลึกลับ

จันทบุรี - ความคืบหน้าเจ้าอาวาสวัดโสมนาราม หรือวัดชำโสม ที่หายตัวไป ล่าสุด ทหาร ตำรวจ ชาวบ้าน และญาติพี่น้องเดินเท้าปูพรมค้นหาจุดที่พบสบง และจีวรที่ท้ายป่ายางเขาหินขาวในรัศมี 5-10 กิโลเมตร เพื่อเร่งติดตามตัวเจ้าอาวาสที่หายตัวไปกลับคืนมา

วันนี้ (20 ก.ค.) พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 61 อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ชาวบ้านในพื้นที่ที่ชำนาญเส้นทาง และญาติพี่น้อง ลงพื้นที่ปูพรมค้นหายังจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบ สภ.เมืองจันทบุรี ได้ไปพบสบง จีวร และขวดน้ำ และถุงใส่กับข้าว และข้าวที่ถูกกองอยู่ใต้โคนต้นไม้บริเวณท้ายป่ายาง เขาหินขาว หมู่ที่ 2 ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี

โดยจุดที่พบห่างจากวัดโสมนาราม หรือวัดชำโสม ประมาณ 5-6 กิโลเมตร ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บสบง และจีวร ตลอดจนขวดน้ำ เพื่อนำไปตรวจลายนิ้วมือแฝง และเก็บสบง และจีวรไว้ตรวจสอบว่าเป็นของ พระสุพัฒน กิจอุดม เจ้าอาวาสหรือไม่

ในเบื้องต้น ผลการตรวจสอบยังไม่ออกมา ทำให้ในวันนี้ทางตำรวจ ทหาร ชาวบ้าน ผู้นำชุมชน และญาติพี่น้องจึงได้สนธิกำลังในการเดินเท้าปูพรมเพื่อออกค้นหา พระสุพัฒน กิจอุดม ในรัศมี 5-10 กิโลเมตร ว่ายังอยู่ หรือมรณภาพไปแล้ว เนื่องจากเกือบ 1 สัปดาห์แล้วที่ยังไม่พบตัวเจ้าอาวาสเลย รวมทั้งญาติพี่น้อง ศิษยานุศิษย์ คณะกรรมการวัด และชาวบ้านต่างมีความเป็นห่วง และตั้งหน้าตั้งตารอ พระสุพัฒน กิจอุดม เจ้าอาวาวาสรูปนี้กลับมา ส่วนในด้านการสืบหาข่าวเชิงลึก และการหาหลักฐานเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการติดตามจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าเจ้าอาวาสถูกลักพาตัวเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์อย่างแน่นอน

ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเชิงลึกจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางถนนสายบำราชนราดูร-เขาคิชฌกูฏ ว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค.58 ที่ผ่านมา ได้มีรถรับจ้างสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 10-3151 ระยอง ป้ายเหลือง เป็นรถสายระยอง-บ้านเพ-เกาะเสม็ด ได้ขับเข้ามาในวัดโสมนาราม หรือวัดชำโสม และคนขับรถรับจ้างได้มารับตัว พระสุพัฒน กิจอุดม ออกไปข้างนอก

จากนั้น พระสุพัฒน ก็ไม่ได้กลับมาวัดอีกเลย ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง เร่งติดตามคนขับรถรับจ้างรายนี้มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อเป็นแนวทางในการสืบหาข่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต่อการหายตัวไปของพระสุพัฒน หรือไม่ต่อไป