กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านในอำเภอสมเด็จ เมืองกาฬสินธุ์ ประสบความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมขัง เหตุนายทุนถมที่สูงกว่า 2 เมตร ระยะทางยาว 300 เมตร ปิดทางน้ำไหล ถนนเชื่อมในหมู่บ้านถูกตัดขาด ยาวกว่า 100 เมตร ต้องพายเรือข้ามฟากเนื่องจากรถจักรยานยนต์และรถเล็กผ่านไม่ได้ นอกจากนี้ยังทำให้พื้นที่สวนที่นาจมน้ำ พืชผลต้นข้าวเน่าตาย บ่อปลาเสียหาย ที่พักอาศัยถูกน้ำท่วมขังสูงกว่า 60 เซนติเมตร
วันนี้ (13 ส.ค.) ที่ถนนภายในหมู่บ้านสี่แยก หมู่ 4 ต.สมเด็จ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ตัวแทนชาวบ้านจำนวน 50 คน นำโดย นายอุดม บุญชูหล้า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 และนายวีระ วันนุกูล ประธานสภา อบต.สมเด็จ ได้รวมตัวกันถือป้ายเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากนายภุชงค์ โพธิกุฎสัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อวิงวอนให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำที่ท่วมขังนานกว่า 2 สัปดาห์
โดยชาวบ้านกว่า 20 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก สาเหตุจากการถมที่ปิดทางน้ำไหลของนายทุนรายหนึ่ง ซึ่งยังไม่ได้รับการแก้ไขจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
นายอุดม บุญชูหล้า ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมขังดังกล่าวเป็นปัญหาที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย เพราะหมู่บ้านนี้ไม่เคยมีปัญหาน้ำท่วมมาก่อน แต่กลับมีน้ำท่วมขังอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งนี้ สาเหตุเกิดจากนายทุนรายหนึ่งได้มาซื้อที่ดินและเริ่มถมที่ราวปลายปี 2557 ซึ่งมีลักษณะเป็นคันดินเหมือนสันเขื่อนขนาดใหญ่ มีความยาวประมาณ 300 เมตร สูง 2 เมตร เป็นเหตุให้ปิดทางเดินของน้ำที่เคยไหลตามธรรมชาติ
เมื่อทางเดินเดิมของน้ำถูกคันดินปิดกั้น พอมีฝนตกลงมาจึงเกิดการท่วมขังสูงกว่า 60 เซนติเมตร ถนนที่สัญจรเชื่อมในหมู่บ้านถูกตัดขาด ระยะทางยาวประมาณ 100 เมตร
นายอุดมกล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ชาวบ้านต้องพายเรือข้ามฟาก เนื่องจากรถจักรยานยนต์และรถเล็กผ่านไม่ได้ นอกจากนี้ยังเอ่อขึ้นสูงท่วมถึงบริเวณตัวบ้าน ทำให้กำแพงบ้านทรุดพัง พื้นที่นาข้าว และพืชผักสวนครัวจมน้ำเน่าตาย บ่อปลาเสียหายหลายไร่ เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจึงได้แจ้งปัญหากับนายทุนเพื่อขอความเป็นธรรมและร่วมกันแก้ไขปัญหา แต่นายทุนกลับไม่ให้ความร่วมมือ จึงได้ร่วมกันลงชื่อทำหนังสือร้องทุกข์ไปที่ อบต.สมเด็จ และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสมเด็จ
“แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว นับวันชาวบ้านยิ่งเดือดร้อนมากขึ้น เนื่องจากมีฝนตกลงมาและมีปริมาณน้ำขังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สภาพความเป็นอยู่ลำบาก และรู้สึกหวาดผวาจะเกิดโรคระบาดเจ็บป่วยกันทั้งหมู่บ้าน เนื่องจากน้ำเริ่มเน่าและมีกลิ่นเหม็น” นายอุดมกล่าว
ด้านนายวีระ วันนุกูล ประธานสภา อบต.สมเด็จ กล่าวว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นทางคณะผู้บริหารและสภา อบต.สมเด็จ รวมทั้งตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งอำเภอ ที่ดิน ท้องถิ่น ท้องที่ เคยเปิดเวทีเจรจากับนายทุนเพื่อร่วมกันแก้ปัญหา แต่ยังหาข้อยุติไม่ได้
เนื่องจากยังถกเถียงเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินและลำรางสาธารณะ ปัญหาจึงเรื้อรังเกิดน้ำท่วมขัง ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของชาวบ้าน แต่นายทุนที่ถมที่กลับมาทำให้เกิดปัญหา
“ชาวบ้านอยู่กันมาหลายชั่วอายุ ไม่เคยเกิดปัญหาน้ำท่วมอย่างนี้ เนื่องจากมีทางไหลผ่านของน้ำตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ปัญหาเริ่มเกิดเมื่อนายทุนมาทำการถมที่ปิดทางน้ำไหลกลับไม่รับผิดชอบที่จะแก้ไข ทำให้ชาวบ้านที่อยู่อาศัยมาก่อนได้รับความเดือดร้อน ไม่ต่างกับถูกนายทุนกดขี่รังแก” นายวีระกล่าว และว่า
ดังนั้น พวกเราจำเป็นต้องทำหนังสือร้องทุกข์ต่อนายภุชงค์ โพธิกุฎสัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ เพราะขณะนี้ชาวบ้านเดือดร้อนมาก เนื่องจากประสบปัญหาน้ำท่วมขังนาน 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังทำให้ทรัพย์สินเสียหาย และการเดินทางลำบากมาก หากปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขก็จะเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อไป