ย้ายผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์เจ้าอาวาสวัดโสมนารามจาก รพ.ระยอง มาไว้ รพ.พระปกเกล้า

จันทบุรี-ตำรวจจันทบุรี ย้ายผู้ต้องหาอุ้มฆ่าชิงทรัพย์เจ้าอาวาสวัดโสมนาราม จาก รพ.จังหวัดระยอง มารักษาตัวต่อที่ รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลเข้ม หวั่นชาวบ้าน และศิษยานุศิษย์จะบุกทำร้าย และเตรียมสอบปากคำเพิ่ม

จากกรณีที่ นายไพรสณท์ เพ็ญเสวี อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุอุ้มฆ่าชิงทรัพย์เงินผ้าป่าสามัคคีกว่า 1 แสนบาท พระสุพัฒน กิจอุดม เจ้าอาวาสวัดโสมนาราม เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2558 ก่อนที่ นายไพรสณท์ ผู้ต้องหารายนี้จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อม และใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเพื่อหนีความผิดแต่ไม่เสียชีวิต

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (11 ส.ค.) พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้เดินทางไปรับตัว นายไพรสณท์ เพ็ญเสวี อายุ 37 ปี ที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลจังหวัดระยอง มาทำการรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรีแล้ว เพื่อง่ายต่อการสอบปากคำหาผู้ที่เกี่ยวข้อง และผู้รู้เห็นกับคดีนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ในเบื้องต้น ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ยังคงอายัดตัว นายไพรสณท์ เพ็ญเสวี ผู้ต้องหารายนี้อยู่ โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมเข้ม หวั่นประชาชน และศิษยานุศิษย์ที่ทราบข่าวจะบุกมาทำร้าย หลังมีความโกรธแค้นต่อผู้ต้องหารายนี้เป็นอย่างมาก

ส่วนอาการของ นายไพรสณท์ ผู้ต้องหารายนี้มีอาการดีขึ้นตามลำดับ สามารถที่จะตอบข้อซักถามของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ และรับประทานอาหารได้ แต่ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ขณะนี้ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เตรียมที่จะมีการเข้าสอบปากคำ นายไพรสณท์ เพ็ญเสวี ผู้ต้องหารายนี้เพิ่มเติม เนื่องจาก นายไพรสณท์ เป็นผู้ต้องหาปากสำคัญที่น่าจะมีส่วนรู้เห็นต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อคดีนี้ ที่ชาวบ้านเชื่อว่า ผู้ต้องหารายนี้ไม่น่าที่จะก่อเหตุเพียงคนเดียว และน่าจะมีผู้ที่เกี่ยวข้อง และผู้ที่รู้เห็นต่อคดีนี้อยู่ร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานของเจ้าพนักงานสอบสวน และคำให้การของพยานแวดล้อม และผู้ต้องหารายนี้ว่าจะปริปากพูดออกมาหรือไหมอย่างไรต่อไป

นอกจากนั้น หากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ ทางตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ก็จะมีการนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป