กาฬสินธุ์ - “ณรงค์ชัย” รมว.พลังงาน ลงพื้นที่ตรวจแหล่งก๊าซธรรมชาติแห่งใหม่ที่กาฬสินธุ์ เผยมีกำลังผลิต 640 ตันต่อวัน สร้างรายได้ค่าภาคหลวงให้ท้องถิ่น 27 ล้านบาทต่อปี พร้อมเพิ่มมาตรการสร้างความเชื่อมั่นแก่ชุมชนทุกด้าน ด้านตัวแทนชาวบ้านมีทั้งสนับสนุนและต่อต้าน
วันนี้ (9 ส.ค. 58) ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่ ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซใหม่ ตามโครงการสำรวจปิโตรเลียมในพื้นที่หลุมดงมูล 5 (DM-5) ที่เป็นการยื่นขอสัมปทานรอบที่ 18 โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ อปพร. ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ขอนแก่น เฝ้าระวังตลอดเส้นทางการเดินทางเข้าพื้นที่สำรวจของคณะรัฐมนตรี โดยมี พ.อ.มานพ ไขขุนทด รอง ผอ.กรมน.กาฬสินธุ์ พร้อมคณะจาก จ.ขอนแก่นร่วมลงพื้นที่สำรวจด้วย
ทั้งนี้ ระหว่าการลงพื้นที่สำรวจแหล่งพบก๊าซใหม่ ต.กุงเก่า อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ มีกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นชาวบ้านจาก ต.นาดูนสาด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น และชาวบ้านนาคำน้อย ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ออกมารวมตัวกันเรียกร้องให้รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและคณะมารับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้าน แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ และไม่มีการรับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้าน
พร้อมกับเดินทางเข้าไปที่หลุมดงมูล 3 ที่อยู่ในพื้นที่บ้านนาคำน้อย ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีกลุ่มประชาชนที่ให้การสนับสนุนถือป้ายข้อความต่างๆ ให้กำลังใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่และให้การต้อนรับรัฐมนตรี และไปสำรวจต้นยางพาราของชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆ กับจุดขุดเจาะก๊าซ หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีต้นยางพารายืนต้นแห้งตายเป็นผลพวงจากการขุดเจาะก๊าซในพื้นที่
ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การขุดพบแหล่งก๊าซใหม่เป็นการพบโดยใช้การวัดคลื่นไหวสะเทือนแบบ 3 มิติ โดยคาดว่าแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ประกอบด้วยหลุมผลิตดงมูล 3ST และหลุมผลิตดงมูล 5 เบื้องต้นมีปริมาณประมาณ 35,000 และ 50,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน สามารถผลิตเป็นก๊าซธรรมชาติได้ประมาณ 20 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือประมาณ 640 ตันต่อวัน ก๊าซที่ได้จะส่งผ่านทางท่อเชื่อมต่อภายในแหล่งดงมูลไปยังสถานีปรับปรุงคุณภาพที่ตั้งอยู่ ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ที่มีกำลังการผลิตสูงสุด 28 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และส่งไปยังจุดซื้อขายที่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น โดยรัฐจะมีรายได้จากค่าภาคหลวงสำหรับจัดสรรลงสู่ท้องถิ่นในพื้นที่ผลิตประมาณ 27 ล้านบาทต่อปี ระยะเวลา 15 ปี เป็นเงินมูลค่ามากกว่า 450 ล้านบาทตลอดระยะโครงการ
“ขอย้ำว่าธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทยมีความเสี่ยง และต้องใช้เงินลงทุนสูงทุกขั้นตอน และส่วนใหญ่ใช้ระยะเวลานานตั้งแต่การสำรวจ พัฒนา จนถึงการผลิต เพราะนอกจากต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย มีมาตรฐานทางด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังต้องเพิ่มมาตรการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ชุมชนในทุกด้าน เพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานควบคู่กับการสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนอย่างแท้จริง” ดร.ณรงค์ชัยกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการดูข้อมูลของไตรภาคีจากปัญหาเรื่องร้องเรียนของชาวสวนยางพาราในพื้นที่แล้ว ผลที่ออกมาไม่ได้มีปัญหาจากการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ ต.กุงเก่า อ.ท่าคันโท และที่ ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์
ทั้งนี้ กลุ่มชาวบ้านที่นำโดยนายเรียบ จันทะมิตร และนายชีวา สีกำพี ชาว ต.หนองใหญ่ ที่อ้างเป็นผู้คัดค้านยังได้เดินทางไปรวมตัวกันที่สวนยางพาราของชาวสวนยางพารา ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี แต่ไม่พบรัฐมนตรี ได้โชว์หนังสือร้องเรียนให้แก่สื่อมวลชนและร้องขอให้สื่อไปถึงรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน เพราะพลาดการยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีฯ
