“กรมวังผู้ใหญ่” เปิดประชุมเศรษฐกิจพอเพียงใน “สมเด็จพระเทพฯ” ชมแปลงเกษตรกรโคราช

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- กรมวังผู้ใหญ่ เป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน ระยะที่ 3 โครงการในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม พร้อมเยี่ยมชมแปลงเกษตรของราษฎรที่ประสบความสำเร็จ ในการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม

วันนี้ (5 ส.ค.) ที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านโพนสูง หมู่ 4 ต.หมื่นไวย อ.เมือง จ.นครราชสีมา ว่าที่ ร.ต.กิตติ ขันธมิตร กรมวังผู้ใหญ่ ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมคณะ ได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ การส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชนระยะที่ 3 พร้อมมอบพันธุ์พืชพระทานแก่เกษตรกร และบรรยายพิเศษเรื่อง “พระราชกรณียกิจ ด้านเศรษฐกิจพอเพียง”

จากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยมชมแปลงเกษตรของราษฎรที่ประสบความสำเร็จในการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น ฟาร์มนายโชค

สำหรับโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน ซึ่งมีสำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเป็นเจ้าของโครงการ ดำเนินการจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อการพัฒนา ในปีงบประมาณ 2558 ได้ดำเนินการโครงการเศรษฐกิจพอเพียงขึ้น มีเป้าหมายจำนวน 24 จังหวัด 24 อำเภอ 24 หมู่บ้าน ในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ประกอบด้วย จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ มุกดาหาร มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำพู อุดรธานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.กระบี่ พังงา ภูเก็ต ระนอง และได้จัดทำโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ ชี้แจงแนวทางการดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชนระยะ 3 ครั้งที่ 1-6 ขึ้นเพื่อชี้แจงและเผยแพร่ให้แก่ประชาชน ผู้นำชุมชน ข้าราชการในจังหวัดพื้นที่เป้าหมายดังกล่าวได้รับทราบ

โดยความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานในจังหวัดต่างๆ เพื่อสามารถน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ให้เหมาะสมในการดำเนินชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล เพื่อก่อให้เกิดภูมิคุ้มกัน และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจำนวน 6 ครั้ง

ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้มีความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สามารถปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสมกับตนเอง ครอบครัว และชุมชน เพื่อให้ผู้เข้าประชุมสามารถกำหนดแนวทางการสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างเหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม สิ่งแวดล้อม และสถานการณ์ รวมถึงเพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าประชุมสามารถพัฒนาแนวทางการประกอบอาชีพของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ