ประจวบคีรีขันธ์ - อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ เป็นประธานปล่อยช้างป่า “พังฤทธิฦาชัย” คืนสู่ผืนป่าธรรมชาติแก่งกระจานแล้ว ถือเป็นครั้งแรกของไทย พร้อมติดปลอกคอ หรือเรดิโอคอลลาร์ อุปกรณ์ส่งสัญญาณในรัศมี 10 กิโลเมตร หลังทีมสัตวแพทย์รักษาอาการนานกว่าครึ่งเดือนจนหายป่วย ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหามหาราชินี
วันนี้ (5 ส.ค.) ที่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำในศูนย์ฝึกรบพิเศษฤทธิฦาชัย หมู่ 3 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน นายเชิดชัย จริยะปัญญา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง นายสรัญชา สุริยกุล ณ อยุธยา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี นายวัฒนา พรประเสริฐ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี นายกมล นวลใย หน.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นางสุนันทา พิมพ์ไทย นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เป็นประธานในพิธีปล่อยช้างป่าเพศเมีย พังฤทธิฤาชัย อายุ 7-8 ปี คืนสู่ธรรมชาติป่าแก่งกระจาน ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหามหาราชินี
ภายหลังจากทีมสัตวแพทย์ใช้เวลารักษานานถึง 46 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ตำรวจพลร่มในศูนย์ฝึกรบพิเศษฤทธิฦาชัย ไปพบนอนป่วยอยู่ริมอ่างเก็บน้ำในศูนย์ฝึกรบพิเศษฤทธิฦาชัย เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา หลังจากนั้น ทางทีมสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมทีมสัตวแพทย์โรงพยาบาลสัตวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน ฯลฯ จึงทำการรักษามาโดยตลอด และมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ให้การดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งสาเหตุที่ช้างป่าป่วยพบว่าเกิดจากไปกินสารเคมี
นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ทีมสัตวแพทย์ตรวจติดตามดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด จนช้างป่าพังฤทธิฦาชัย อาการเจ็บป่วยได้หายเป็นปกติ และสามารถกินอาหารได้แล้ว ทั้งกล้วย อ้อย และหญ้า รวมทั้งสภาพของร่างกายมีความแข็งแรงจนสามารถกลับเข้าไปอยู่กลับโขลงช้างป่าด้วยกันได้แล้ว และนับเป็นช้างป่าตัวแรกที่กรมอุทยานแห่งชาติ รักษาจนหายป่วยภายในป่า และปล่อยกลับคืนป่า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย
นายกมล นวลใย หน.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่า สำหรับการปล่อยพังฤทธิฦาชัย กลับเข้าสู่ผืนป่าแก่งกระจานในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ทำการติดปลอกคอที่พังฤทธิฦาชัย หรือเรดิโอคอลลาร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ส่งสัญญาณวิทยุในรัศมี 10 กิโลเมตร โดยมีอายุใช้งานถึง 7 ปี เพื่อติดตาม และเช็กเส้นทางเดินของโขลงช้างป่า
โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งจาน ต้องนำช้างบ้านจากหมู่บ้านช้างหัวหิน จำนวน 2 เชือกมาประคองเป็นช้างพี่เลี้ยงนำออกจากบริเวณลานริมอ่างเก็บน้ำศูนย์ฝึกรบพิเศษฤทธิฦาชัย ไปส่งข้ามลำห้วยป่าละอู ซึ่งเมื่อข้ามเข้าผืนป่าแก่งกระจานแล้ว ควาญช้างทั้ง 2 เชือก ได้นำเชือกที่คล้องติดตัวพังฤทธิฦาชัย ออก เพื่อให้ พังฤทธิฦาชัย เดินเข้าป่าไปเอง
จากนั้นช้างพี่เลี้ยงทั้ง 2 เชือก จึงข้ามกลับมาท่ามกลางความดีใจของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทีมสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี และสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าประเทศไทย (WCS) เจ้าหน้าที่ตลอดจนนักอนุรักษ์สัตว์ป่าชาวต่างประเทศ และกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าชาวไทย และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ตลอดจนตำรวจพลร่ม ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก และทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ
นายประกอบ ชำนาญกิจ เจ้าของหมู่บ้านช้างหัวหิน หลังวัดเขาอิติสุคโต หัวหิน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่การรักษาอาการเจ็บป่วยของลูกช้างป่านานกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา และล่าสุดหายดีแล้วมีการปล่อยคืนสู่ผืนป่าธรรมชาติแก่งกระจานอีกครั้ง ได้รับการประสานจากทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในการขอช้างที่ปางช้าง จำนวน 2 เชือก พร้อมควาญช้างเพื่อมานำช้างป่าที่ป่วยออกจากจุดที่รักษา และย้ายมาไว้บริเวณริมอ่างเก็บน้ำฯ และในช่วงปล่อยช้างป่านั้นก็ต้องใช้เชือกคล้องที่ช้างป่า และเดินขนาบข้างคู่กันไปส่งเข้าไปในป่า